
ขณะเดียวกัน การเติบโตของรายได้จากตลาดต่างประเทศมาจากการขยายช่องทางการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นในประเทศหลัก ได้แก่ อินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา มาเลเซียและจีน อีกทั้ง ยังสามารถเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ๆ ในประเทศรองอีกหลายประเทศ เช่น แคนาดา เกาหลีใต้ ไต้หวัน และประเทศในแถบยุโรปที่มีแนวโน้มเติบโตที่ดีขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ทำกิจกรรมส่งเสริมการขายและการตลาดทางออนไลน์และออฟไลน์กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งนำเสนอสินค้าใหม่ อาทิ สาหร่ายเถ้าแก่น้อยเทมปุระ x น้ำพริกป้าแว่น สาหร่ายอบรสเกลือชมพู และสาหร่ายอบรสมะเขือเทศ ทำให้ผู้บริโภคเข้ามาในกลุ่มขนมขบเคี้ยวประเภทสาหร่ายเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้จากการขายในปัจจุบันมาจากในประเทศอยู่ที่ 35% และตลาดต่างประเทศอยู่ที่ 65%
นอกจากนี้ เพื่อตอกย้ำการเป็นหุ้นปันผลที่สร้างผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้พิจารณาจากงบเฉพาะกิจการและอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2567 (มกราคม-มิถุนายน) ในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท ซึ่งกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 27 สิงหาคม 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 11 กันยายน 2567 สะท้อนศักยภาพฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TKN กล่าวว่า แม้มีปัจจัยกดดันมาจากต้นทุนราคาวัตถุดิบหลักสาหร่ายที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในฤดูกาลสาหร่ายงวดใหม่ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงอัตราการเติบโตด้วยเป้ายอดขายปีนี้ไม่น้อยกว่า 10% ด้วยการบริหารจัดการยอดขาย (Revenue Management) บริหารพอร์ตสินค้าและช่องทางการขายที่มีกำไรดี (Product Mix and Channel Mix) ให้มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ จะมุ่งขยายตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพ เช่น สหรัฐอเมริกา อินโดนีเซียและมาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาดหลักที่สร้างการเติบโตได้ดีและถือเป็นการปรับสมดุลของตลาดจีนที่มีอัตราเติบโตลดลงจากปัจจัยเศรษฐกิจชะลอตัว นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้วางแผนขยายตลาดในประเทศใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ ได้แก่ กลุ่มประเทศเศรษฐกิจในภูมิภาคยุโรปตะวันตก และ กลุ่มประเทศสหราชอาณาจักร (UK) เพื่อตอบรับเทรนด์การบริโภคสาหร่ายที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก
ขณะที่ตลาดในประเทศคาดว่าจะได้รับผลดีจากจำนวนนักท่องเที่ยว ที่คาดว่าจะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากถึง 33 ล้านคน เป็นปัจจัยบวกต่อยอดขายอย่างมีนัยสำคัญ ขณะเดียวกัน TKN เดินหน้าผลักดันการบริโภคภายในประเทศด้วยการกระจายสินค้าให้มากขึ้น และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย (Product Mix) เช่น สินค้าในกลุ่มสาหร่ายอบและกลุ่มทอด ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง พร้อมมุ่งสร้างแบรนด์และการทำการตลาด รวมถึงออกแคมเปญโปรโมชั่นใหม่ๆ ผลักดันให้แบรนด์ “เถ้าแก่น้อย” ก้าวขึ้นแท่นในการเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภครัก “Brand Love” สร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดขนมขบเคี้ยวประเภทสาหร่ายในประเทศไทย
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon