สถาบันพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน ชี้ภัยพิบัติทางสังคมและสิ่งแวดล้อมรุนแรง และถี่ขึ้น ตามคำทำนายหรือภาพในริยาย กระทบโดยตรงต่อธุรกิจ เร่งปรับตัวทำ ESG รับมือพ.ร.บ.Climate Change มาเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคและรูปแบบการทำธุรกิจ แปลงงบฉากน่ากลัวให้จบHappy Ending
“อนันตชัย ยูรประถม” ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน (SBDi) เปิดเผยถึงสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันเต็มไปด้วยความผันผวนที่มีทิศทางทวีความรุนแรงมากขึ้นและถี่ขึ้น จนยากที่ภาคธุรกิจจะรับมือ ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นเป็นกราฟขึ้นๆ ลงๆ ส่วนปัญหาทางสังคมผลกระทบที่เกิดขึ้นกับทั้งโลกจะเพิ่มขึ้นอย่างเช่น โควิด -19 จะมีมาต่อเนื่อง และปัญหาสิ่งแวดล้อม จะเป็นกราฟที่มีทิศทางเพิ่มขึ้นและไม่มีทีท่าจะลดลง ที่จะส่งผลกระทบมาถึงภาคธุรกิจจะต้องพร้อมปรับตัวยืดหยุ่นตามสภาวะที่คาดเดาได้ยากขึ้น ปรากฎการณ์ที่เคยถูกยกพูดถึงในคำนายเหมือนกับโลกในนิยาย กลับกลายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในวันนี้ในหลายเหตุการณ์ จึงต้องเร่งพัฒนาธุรกิจให้มีความยืดหยุ่นรองรับปัจจัยรุมเร้า ด้วยการปรับใช้ESG (สมดุลธุรกิจและสิ่งแวดล้อม)
โดยการทำESG นั้นในปัจจุบันจะถูกยกระดับเป็นกติกาเข้มงวดในการทำการค้ากับทั้งโลก และในประเทศ จึงต้องเตรียมปรับตัว ก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ผ่านร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ หรือ พ.ร.บ.ลดโลกร้อน (Climate Change Act) ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้หลังผ่านร่างจากรัฐสภา ภาคธุรกิจไม่ควรรอให้ถึงเวลาค่อยปรับตัว แต่ควรเริ่มต้นเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน
ฤทธา ต้นแบบ ESG โดดเด่นในวิกฤติ
ดังนั้นภาคธุรกิจจึงต้องเตรียมแผนรับมือวางกลยุทธ์ธุรกิจให้สอดคล้องกับกฎกติกา ที่กำลังเข้ามาบังคับการทำธุรกิจ พร้อมกันกับการทำงานเชิงรุก จะเป็นแต้มต่อสำคัญทำให้ธุรกิจปิดเกม สร้างความได้เปรียบคู่แข่ง หากทำก่อนคนอื่น เช่น บริษัท ฤทธา จำกัด เป็นบริษัทที่โดดเด่นด้านธรรมาภิบาลขึ้นมาในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในกรุงเทพในช่วงที่ผ่านมา
“ในยุคที่กระแสภัยภิบัติและสภาพปัญหาทางสังคม ส่งผลรุนแรงกับภาคธุรกิจมากขึ้น จึงต้องเริ่มทำESG เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันความผันผวน แต่จะต้องทำให้เหมาะสมสอดคล้องกับบริบทขององค์กร มีการเช็กลิสต์สมดุลธุรกิจ และผลตอบแทนทางการเงิน”
FPI ต้นแบบลดต้นทุน
เช่นเดียวกันกับบริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ FPI ได้เตรียมการทำ ESG ตั้งแต่ปี 2564-2565 ในช่วงที่ออเดอร์ลดลง และได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เริ่มต้นจากบริหารจัดการลดต้นทุนด้านราคาพลังงาน การผลิต ทำให้ผลประกอบการมีกำไร จนมีการปันผลให้ผู้ถือหุ้นทุกปี เพราะมีการเริ่มต้นทำ ESG ตั้งแต่ในช่วงที่ย ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบแม้อยู่ในยุคที่อุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยชะลอตัวจากการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์สันดาป สู่รถยนต์ไฟฟ้า
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon