SCGD  ตั้ง4 กระบวนท่ากันสินค้า หนีภาษีทรัมป์ไหลสู่อาเซียน 

167

มิติหุ้น – SCGD กางผลงานกำไรเริ่มฟื้นทะลุองศาเดือดโต 171 % จัดทัพรับศึกสงครามการค้า สินค้านอกอาเซียน หนีตายกระจายกำลังส่งมาตีตลาดอาเซียน วาง 4 กระบวนท่ากุมพื้นที่ 1.เก็บฐานลูกค้าเดิม เสาะหาลูกค้าใหม่ 2.ผลิตสินค้าตอบโจทย์ตลาดเปลีย่น 3.มุ่งลดต้นทุนแข่งตลาดโลก 4.หาฐานรายได้ใหม่ ทั้งนำเข้า และรับข้างผลิตสู้ต้นทุน ย้ำมีแต้มต่อสภาพคล่องการเงินฉลุยแกร่งพอรับมือตลาดโลกผันผวนระยะยาว 

 

“นำพล มลิชัย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCG Decor (SCGD) เปิดเผยว่า ในฐานะผู้นำในธุรกิจเซรามิกวัสดุตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ ในภูมิภาคอาเซียน จากผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 มีโดย EBITDA 808 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34 % จากไตรมาสก่อน(QoQ)  มีกำไร 217 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 171 % QoQ จากค่าใช้จ่ายที่ลดลง หลังจากปรับโครงสร้างธุรกิจบริหารต้นทุนขายและต้นทุนการเงินอย่างมีประสิทธิภาพได้ตามแผน

 

แผนการเร่งลดต้นทุนด้านการใช้พลังงานให้เพิ่มประสิทธิภาพอย่าง จึงมีความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น EBITDA Margin อยู่ที่13.7 %  และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 3.9 %

สูงกว่าไตรมาสก่อนแม้ว่า ในปี 2567 บริษัทฯมีรายได้การส่งออกสินค้าไปสหรัฐอเมริกาต่ำกว่ากว่า 1 % ของยอดขายทั้งหมด แต่ยังต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของตลาดในช่วงประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีตอบโต้ออกไปอีก 90 วัน ที่ยังมีหรือความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ที่มีความเสี่ยงจากสินค้าจากประเทศอื่นส่งออกมายังอาเซียนเพิ่มมากขึ้น

ดังนีั้น

 

4 กระบวนท่าต่อกร สินค้าใหม่ท้าชน

 

SCGD จึงวางกลยุทธ์เร่งปรับตัวสู้สงครามการค้า รับมือภาษีนำเข้าสหรัฐอเมริกาด้วยการรักษาความสามารถการแข่งขันด้วยต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทั้งในไทยและต่างประเทศ

ด้วย 4 กลยุทธ์ ดังนี้

  1. มุ่งดูแลรักษาลูกค้าเดิม และขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ทั่วโลก เร่งขยายการส่งออกเพื่อรองรับความต้องการที่มีความหลากหลาย ในตลาดที่มีศักยภาพมากขึ้น อาทิ ออสเตรเลีย แคนาดา

และตะวันออกกลาง 

2.ปรับการผลิตทันท่วงทีสอดคล้องกับความต้องการของตลาด บริหารจัดการสินค้าคงคลังที่มีประสิทธิภาพ และจัดการต้นทุนให้สอดคล้องกับยอดขาย

  1. ผู้นำด้านการบริหารต้นทุนการผลิตสินค้า เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลก

ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายและความสามารถในการทำกำไรได้สูงขึ้น เช่น การเร่งโครงการกระเบื้องพอร์ซเลนในเวียดนาม มีความได้เปรียบด้านต้นทุน หรือการทำสินค้า SPC ในไทยให้มีต้นทุนที่สามารถแข่งขันกับสินค้าจากผู้ผลิตระดับโลกได้ ส่งผลให้ปริมาณการขายทั้งกระเบื้องพอร์ซเลนในเวียดนาม และสินค้า SPC ในไทยให้มีต้นทุนที่สามารถแข่งขันกับสินค้าจากผู้ผลิตระดับโลกได้ ส่งผลให้ปริมาณการขายทั้งกระเบื้องพอร์ซเลนในเวียดนาม และสินค้า SPC ในไทยสูงขึ้นประมาณ 30% และ 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ท่ามกลางสถานการณ์ตลาดที่ยังชะลอตัว

  1. เพิ่มโอกาสด้วยการนำเข้าหรือจ้างผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ต้นทุนแข่งขันได้ นำเสนอสินค้าหลากหลายด้วยคุณภาพมาตรฐาน SCGD ในราคาที่จับต้องได้ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค ส่งผลให้สัดส่วนการนำเข้าของ SCGD เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 18% เมื่อเทียบกับ 17% ของช่วงเดียวกันในปีก่อน

“เพื่อลดผลกระทบจากความไม่แน่นอน จึงมีความระมัดระวังในการลงทุน และจัดลำดับความสำคัญโครงการการลงทุนเพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงินโดยเคร่งครัด”

ลดต้นทุนตุนกำไร 100 ล้านบาท

 ทั้งนี้ แนวทางการรลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต จะเสร็จสิ้นในปีนี้ ส่งผลทำให้การลดต้นทุน และเพิ่มกำไรในปีนี้ รวมประมาณ 100 ล้านบาท อาทิ โครงการติดตั้งระบบการผลิตก๊าซธรรมชาติด้วยเชื้อเพลิงชีวมวล (Biomass Gasifier) ทดแทนการใช้ถ่านหินที่มีราคาสูง ที่โรงงาน Pho Yen ทางตอนเหนือของเวียดนาม ทั้งยังปรับปรุงเทคโนโลยีและเครื่องจักร ขยายการผลิต Glazed Porcelain
ที่โรงงาน Pho Yen เฟส 1 และ เฟส 2 รวมกำลังการผลิตกว่า 5 ล้านตารางเมตรต่อปี เพื่อสอดรับกับความต้องการที่เวียดนาม  อีกทั้ง โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่โรงงานนิคมหนองแค จำนวน 4 เมกะวัตต์ และโรงงานหินกอง จำนวน 1.5 เมกะวัตต์ และโครงการติดตั้งระบบ Hot Air Generator ที่โรงงานนิคมหนองแค ทดแทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล 

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตทั้งในด้านวัสดุตกแต่งพื้นผิว ธุรกิจสุขภัณฑ์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง (Complementary Business) ต่อเนื่อง เร่งตอบความต้องการของลูกค้าที่มีความต้องการ ที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น โดยในไตรมาสที่ 1 โครงการก่อสร้างร้านค้า COTTO LiFE สาขาภูเก็ต สาขาที่ 5 บนพื้นที่ 1,109 ตารางเมตร ทั้งนี้ ยังได้ขยายธุรกิจสุขภัณฑ์ไปยังต่างประเทศ และเพิ่มผู้แทนจำหน่ายเป็น 170 ราย โดยมียอดขายสุขภัณฑ์ในต่างประเทศ 126 ล้านบาท ส่วนการขยายธุรกิจสินค้าและบริการเกี่ยวเนื่องภายในไทยและอาเซียน มียอดขายจากสินค้าและบริการเกี่ยวเนื่องกว่า 109 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 จากปีก่อน

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/

Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon

Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770

Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon