มิติหุ้น – Trend Spotter
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก โดยดัชนี DJIA (+0.21%), S&P500 (+0.63%) และ Nasdaq (+1.52%) ขานรับผลประกอบการแข็งแกร่งมากกว่าที่ตลาดคาด สำหรับกลุ่ม Magnificent 7 อย่าง Microsoft (ธุรกิจ Cloude-Azure) และ Meta (ประกาศเพิ่มงบลงทุนเพื่อเร่งสร้างศูนย์ข้อมูลรองรับ AI)
โดย กลุ่มปัญญาประดิษฐ์ (AI) ช่วยชดเชยตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอตัวหลังจาก สหรัฐฯ รายงานการจ้างงานภาคเอกชน (ADP) 62k น้อยกว่าตลาดคาดที่ 114k (เดือนก่อน 147k) และ GDP สำหรับ 1Q25 -0.3% qoq ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 0.2% qoq (คืนวันพุธที่ผ่านมา)
สำหรับสัญญาทองคำ (COMEX) ลดลงอยู่ที่ US$3,222.2/oz หลังสัญญาณบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า ขณะเดียวกันนักลงทุนรอจับตาตัวเลขจ้างนอกภาคเกษตร เดือน เม.ย. ตลาดคาด 138k (เดือนก่อน 228k) (วันนี้)
ด้านสัญญาน้ำมันดิบ (WTI) ปิดบวกที่ US$59.24/bbl หลังจาก Donald Trump ขู่จะคว่ำบาตรอิหร่าน ภายหลังจากเจรจานิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่าน (รอบที่ 4) ถูกเลื่อนออกไป และกล่าวว่าการซื้อน้ำมันหรือผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีจากอิหร่านทั้งหมดจะต้องยุติ
• SET Index :
เราคาดว่า SET Index ยังคงเคลื่อนไหว Sideway to Sideway up ในกรอบบริเวณ 1,190-1,210 ลุ้นทดสอบ 1200 จุด จากแรงหนุนกลุ่ม Big Cap ในระยะสั้น เนื่องจาก
1) การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จากธปท. 25bp ลงมาอยู่ที่ 1.75% ตามตลาด (วันพุธที่ผ่านมา)
2) แรงหนุน ThaiESGX พร้อมเสนอขายพร้อมกันวันที่ 2 พ.ค. และการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ไป ThaiESGX (13 พ.ค.) เพื่อรอการเจรจาการค้าหลายประเทศเพิ่มเติม
3) SET index รับรู้ความกังวลสงครามการค้าไปมากพอสมควร โดยตลาดยังคงรอผลการเจรจาระหว่างสหรัฐ-จีน
ดังนั้นเราจึงแนะนำการ trading สำหรับการรีบาวด์ของ SET index
ทั้งนี้ ธปท. ได้มีการปรับประมาณการ GDP ลดลงเป็น 2.0% และ 1.8% สำหรับ 2025 และ 2026F ตามลำดับ โดยเห็นนโยบายภาษี Donald Trump ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจในปี 2H25
ในขณะที่ทาง Moody ปรับ Credit rating ประเทศไทย จาก “Stable” สู่ “Negative” เนื่องจากกังวลภาษี Donald Trump เช่นกัน และความกังวลเสถียรภาพการคลังในระยะกลาง-ยาว นอกจากนี้ Moody ยังคงปรับ Outlook ธนาคารแห่งไทย 7 แห่ง (BBL, EXIMT, KBANK, KTB, SCB, SCBX, TTB) จาก “Stable” เป็น “Negative”
สำหรับปัจจัยหุ้นในประเทศ SCC รายงานกำไรสุทธิ 1Q25 อยู่ที่ 1099 ล้านบาท มากกว่าเราและ Consensus คาดที่ 5%/30% จากซีเมนต์ และผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม เราคาดว่า PE/PP spread จะอ่อนแอใน 2H25 จากการเริ่มเดินเครื่องกำลังการผลิตในเอเชีย
ในขณะที่ MINT กล่าวว่าโรงแรมมี RevPAR เติบโตในเลขหลักเดียว ใน 1Q25 (vs. +3% yoy RevPAR ใน 4Q24) และยังอยู่ในขั้นตอนการประเมินผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
• หุ้นแนะนำ
GULF :
หุ้น Defensive และเป็นผู้นำในกลุ่มโรงไฟฟ้า และจะได้รับความสนใจจากกองทุน ThaiESGX ทั้งนี้ กกพ. ปรับลดค่าไฟเหลือ 3.98 บาทต่อหน่วย งวด พ.ค.-ส.ค. 2025 ต่ำกว่ากรอบเป้าหมายที่ครม. อนุมติเล็กน้อยเพียง 3.99 เรายังคงประมาณการกำไรปกติหลัก 18% สำหรับ 2025-2027F หลังการควบรวมกิจการ
(Take profit: 51.25 / Stop loss: 47.00)
MOSHI :
เราคาดว่าจะมีกำไรสุทธิแข็งแกร่ง 150 ล้านใน 1Q25 (+20% yoy) ได้แรงหนุนจากอัตราการเติบโตยอดขายสาขาเดิม (SSSG) +7.6% และมาร์จิ้นที่ขยายตัวแข็งแกร่ง และคาดว่ายังมีกำไรสุทธิแข็งแกร่งต่อเนื่องใน 2Q25 โดยมี SSSG เติบโตในเลขสองหลักในช่วงต้นเดือน เม.ย.
(Take profit: 48.00 / Stop loss: 39.25)
#MacroWealthResearch
#CGSInternational
#CGSI
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon