CGSI : Trend Spotter

15

มิติหุ้น – Trend Spotter
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกในสัปดาห์ที่ผ่านมาจากหุ้นกลุ่มปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่รายงานผลประกอบการแข็งแกร่งท่ามกลางสงครามการค้า โดย DJIA (-0.24% dod, +3.00% wow), S&P500 (-0.64% dod, +2.92% wow) และ Nasdaq (-0.74% dod, +3.42% wow)

ในขณะที่ Donald Trump รายงานผ่าน Truth Social วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่าจะเรียกเก็บภาษี 100% กับภาพยนตร์ทุกเรื่องที่ผลิตในต่างประเทศ พร้อมกล่าวว่าได้มอบอำนาจให้กระทรวงพาณิชย์และผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ เริ่มใช้ภาษีศุลกากรทันที

ในวันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payroll) เพิ่มขึ้น 177k ตำแหน่ง มากกว่าคาดที่ 138k ตำแหน่ง และ อัตราการว่างงานยังทรงตัวที่ 4.2% ทำให้ Donald Trump ยังคงกดดันอย่างหนักให้ Jerome Powell รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ซึ่งสัปดาห์นี้ จับตาอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) โดยคาดว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.50% (วันพฤหัสฯ) อ้างอิงจาก FedWatch Tool ตลาดให้น้ำหนักการคงอัตราดอกเบี้ยที่ 95.6%

สำหรับสัญญาทองคำ (COMEX) ปิดบวกที่ US$3,322.3/oz ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของ US dollar index และ fund flow ที่ไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย ด้านสัญญาน้ำมันดิบ (WTI) ปิดลบที่ US$57.13/bbl หลังจากกลุ่ม OPEC+ ประกาศเพิ่มกำลังการผลิต ส่งผลให้เกิดความกังวลสภาวะ Oversupply ท่ามกลางนโยบายภาษีที่ยังไม่แน่นอน

• SET Index :
เราคาดว่า SET Index ยังคงเคลื่อนไหวรายสัปดาห์ Sideway ในกรอบบริเวณ 1,180-1,230 หลังจากการฟื้นตัวกลุ่ม Big Cap ท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมาจาก แรงเก็งกำไรของ Thai ESGX และ การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ธปท. ลงมาอยู่ที่ 1.75% โดยเราเชื่อว่าสัปดาห์นี้ ตลาดจะเคลื่อนไหวตามผลประกอบการ 1Q25 กลุ่ม Real sector อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น-กลาง เรายังคงแนะนำ trading เพื่อ take profit เนื่องจากเรามองว่าตลาดยังมีความเสี่ยงจาก

1) การเจรจาระหว่างสหรัฐ-จีน ที่ยังคลุมเครือ ในขณะที่ เราคาดว่าไทย-สหรัฐฯ ยังไม่ทำข้อตกลงทางการค้าในระยะสั้นเช่นกัน

2) เราคาดว่าจะมีเม็ดเงินราวครึ่งนึงของ LTF เดิม (1.53 แสนล้านบาท) จะโยกไป TESGX (วันที่ 13 พ.ค.)(ถือครอง 5 ปี) ในขณะที่อีกครึ่งนึง อาจรอจังหวะ take profit

พัฒนาการณ์ในประทเทศอื่นๆ ล่าสุดรัฐบาลมีแนวคิดการยกเลิกการแจก Digital Wallet 10,000 เฟส 3 สำหรับกลุ่มคนอายุ 16-20 ปี รวมถึงส่วนที่เหลือด้วย (คาดว่าจะได้ข้อสรุปในสัปดาห์หน้า)

เราเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยบวกเล็กน้อยสำหรับตลาด เนื่องจากการแจกเงินที่ผ่านมา ไม่มีผลกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีนัยยะ โดยรายงานข่าวระบุว่ารัฐบาลอาจนำงบประมาณที่เตรียมไว้ มาใช้ดำเนินการเพื่อรองรับผลกระทบจากมาตรการภาษี Donald Trump

เรามองว่ารัฐบาลกำลังพิจารณาการใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ตามหลังความกังวลความเสี่ยงด้านการคลังจาก Moody สัปดาห์ที่ผ่านมา

และ ตัวเลขเศรษฐกิจไทย

แนะนำติดตาม
1) เงินเฟ้อไทย (CPI) เดือน เม.ย. ตลาดคาด -0.1% yoy วันนี้ (10.00 น.),

2) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทย หลังจากปรับตัวลดลงติดต่อกัน 3 เดือน ตั้งแต่ ม.ค. (ตลาดคาดรายงานวันที่ 7 พ.ค.-13 พ.ย.),

3) ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไทย CPN ADVANC (วันนี้), NTL (วันพุธ), SHR BCP IRPC LPN QH CPAXT DOHOME GPSC OR SPRC (วันพฤหัสฯ) CBG TU WHA MOSHI TRUE GFPT TVO RBF TOP IVL WHART SPA (วันศุกร์)

• หุ้นแนะนำ
GULF : หุ้น Defensive ท่ามกลางนโยบายภาษีที่อาจยังไม่แน่นอน เนื่องจากเป็นผู้นำในกลุ่มโรงไฟฟ้า เรายังคงประมาณการกำไรปกติหลัก 18% สำหรับ 2025-2027F หลังการควบรวมกิจการ

(Take profit: 51.25 / Stop loss: 46.75)

SCB : SCB มี Dividend yield น่าสนใจราว 8.5-9.8% ต่อปี แม้ว่า NIM จะลดลงจากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2H25 แต่ผู้บริหารยังให้ความสำคัญกับคุณภาพสินทรัพย์ และการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ช่วยลด downside ต่อกำไรสุทธิในปี 2025

(Take profit: 122.0 / Stop loss: 116.0

#MacroWealthResearch
#CGSInternational
#CGSI

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon