CGSI : Trend Spotter

12

มิติหุ้น – Trend Spotter
• สรุปภาพรวมตลาด : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยดัชนี DJIA +0.62%, S&P500 +0.58%, Nasdaq +1.07% ขานรับข่าวการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ-อังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศแรกที่บรรลุการค้าในการเจรจา ตั้งแต่การประกาศนโยบาย Reciprocal tariffs ต้นเดือน เม.ย. อย่างไรก็ตาม ประเทศอังกฤษยังคงโดนภาษีนำเข้าพื้นฐานในอัตรา 10%

โดยตลาดยังคงเฝ้ารอความคืบหน้าการเจรจาระหว่างสหรัฐ-จีน ที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้

ด้านสัญญาทองคำ (COMEX) ปิดที่ US$3,306.00/bbl (-2.53%) หลังจาก fund flow ไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยหลังการบรรลุเป้าหมายการค้าสหรัฐ-อังกฤษ ในขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ (WTI) ปิดบวกที่ US$62.84/bbl (+2.81%)

• SET Index : เราคาดว่า SET Index ยังคงเคลื่อนไหว Sideway ในกรอบบริเวณ 1,190-1,225

เราอาจเห็นการพักฐานของตลาด จากประเด็นการเมืองในประเทศเข้ามากดดันอีกครั้ง หลังศาลอาญาไม่อนุมัติให้อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางออกนอกประเทศ

แต่เราเชื่อว่ายังไม่หลุด 1190-1200 จุด (แนวรับ) เนื่องจากตลาดได้รับรู้ความกังวลสงครามการค้าไปมากพอสมควร และ มีแรงซื้อจาก TESGX

อย่างไรก็ตาม สำหรับการรีบาวน์ของ SET index ในช่วงนี้ เรายังคงแนะนำเพียง trading เพื่อ take profit ในระยะสั้น-กลาง เนื่องจาก

1) ตลาดรอผลคืบหน้าการเจรจาที่สำคัญ อย่าง สหรัฐฯ-จีน ที่สวิตเซอร์แลนด์ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ ที่อาจยังคงยืดเยื้อ แม้ว่าเมื่อคืน สหรัฐฯ-อังกฤษ จะบรรลุการค้า ซึ่งเป็นผลดีกับสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม เรามองว่าไม่ได้หนุน sentiment การลงทุนในประเทศไทยมากนักเท่าคู่การค้าสหรัฐฯ-จีน

การที่อังกฤษได้ตกลงปรับภาษีศุลกากรลดลงเหลือ 1.8% (จากเดิม 5.1%) และเปิดโอกาสให้สินค้าสหรัฐเข้าถึงได้มากขึ้น อาจทำให้หลายๆประเทศต้องยินยอมให้สหรัฐนำเข้าสินค้าได้มากขึ้นเช่นกันในข้อตกลงการค้า

2) เราเชื่อว่าปัจจัยหนุนหลักโมเมนตัมของ SET ที่มาจากแรงเก็งกำไรผลประกอบการ Real sector 1Q25 และ fund flow ที่ไหลเข้ากลุ่ม Big Cap จากการมาของ TESGX เป็นเพียงช่วงต้นเดือนนี้ ก่อนการโยกย้ายเม็ดเงินจาก LTF ไป TESGX (13 พ.ค. นี้) โดยเรายังประมาณการว่าครึ่งนึงของ LTF เดิมที่ไม่ได้ย้ายไปอาจหาจังหวะการขายในสภาวะตลาดที่ปรับตัวดีขึ้น

สำหรับรายงานผลประกอบการ
GULF : รายงานผลประกอบ 1Q25 มีกำไรสุทธิ 5,395 ล้านบาท (+54% yoy, +38% qoq) เป็นไปตามที่ตลาดคาด แม้ว่ารายได้จากการดำเนินงานจะลดลง -3% yoy จากการบำรุงรักษาครั้งใหญ่ของ GSRC การจ่ายไฟฟ้าจาก EGAT ที่ลดลง และหยุดซ่อมบำรุง SPP สามแห่ง แต่รายได้ +13% qoq มาจาก GPD

QH : รายงานผลประกอบการ 1Q25 มีกำไรสุทธิ 402 ล้านบาท -18% yoy, -13.9% qoq มากกว่าเราคาดที่ 2.9% แต่น้อยกว่าตลาดคาด 11.3% โดยหากไม่รวมกำไรจากส่วนแบ่งการลงทุน QH ขาดทุนจากการดำเนินงาน 95.1 ล้านบาทใน 1Q25 มาจากยอดโอนและกำไรขั้นต้นที่อยู่อาศัยลดลง

TIDLOR : รายงานผลประกอบการ 1Q25 มีกำไรสุทธิ 1.22 พันล้านบาท (+10.3% yoy, +16.6% qoq) มากกว่าเราและตลาดคาด 8.8%/ 7.8% โดยปัจจัยบวกมาจากค่าใช้จ่ายที่ไม่มีดอกเบี้ยลดลง โดยมีการเติบโตของสินเชื่อที่ช้า +4.6% yoy +0.8% qoq

• หุ้นแนะนำ
GULF : หุ้น Defensive ท่ามกลางนโยบายภาษีที่ยังไม่แน่นอนเพื่อการเจรจาระหว่างสหรัฐ-จีน เป็นผู้นำในกลุ่มโรงไฟฟ้า เรายังคงประมาณการกำไรปกติหลัก 18% สำหรับ 2025-2027F หลังการควบรวมกิจการ

(Take profit : 26.00 / Stop loss : 24.2)

CPALL : เราเชื่อว่า CPALL จะมีกำไรปกติแข็งแกร่ง 6.9 พันล้านบาท (+14.5% yoy) ใน 1Q25 มาจากมาร์จิ้นที่ขยายตัว ซึ่งมาจากยอดขายสินค้าประเภทอาหารพร้อมทานที่เพิ่มขึ้น เราคาดว่า SSSG จะเพิ่มขึ้น +3% yoy สำหรับ 7-Eleven จากยอดซื้อและจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นใน 1Q25

(Take profit : 54.50 / Stop loss : 51.75)

#MacroWealthResearch
#CGSInternational
#CGSI

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon