มิติหุ้น – บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง (DMT) สุดสตรอง! ไตรมาส 1/2568 โชว์รายได้ 659.19 ล้านบาท กำไรสุทธิ 272.67 ล้านบาท ฟากบิ๊กบอส “ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย” เดินหน้าลุยงานประมูลโครงการ มุ่งเน้น M82 M5 และจุดพักรถริมทางหลวง พร้อมการขับเคลื่อนบ.ย่อย เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ปักหมุดรายได้ปีนี้เติบโต 10% ขึ้นแท่นหุ้นปลอดภัย จ่ายปันผลต่อเนื่องอย่างฉ่ำๆไปเลย ไม่น้อยกว่า 90% ของกำไร
ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 (สิ้นสุด 31 มีนาคม 2568) บริษัทฯ มีรายได้รวม จำนวน 659.19 ล้านบาท โดยมีรายได้ค่าผ่านทาง จำนวน 652.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ค่าผ่านทาง จำนวน 617.87 ล้านบาท รายได้จากการให้บริการซ่อมโครงสร้างพื้นฐาน จำนวน 0.58 บาท ขณะที่มีรายได้จากการลงทุน จำนวน 5.43 ล้านบาท และรายได้อื่น จำนวน 0.30 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ จำนวน 272.67 ล้านบาท ทั้งนี้ ใน ไตรมาส 1/2568 มีปริมาณจราจรเฉลี่ยต่อวันรวมอยู่ที่ 107,261 คัน
ณ 31 มีนาคม 2568 DMT ยังคงรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยไม่มีหนี้สินที่มีดอกเบี้ย มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน หรือ DE Ratio ในอัตรา 0.08 เท่า ถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำ มีวงเงินทุนหมุนเวียนที่ยังไม่ได้เบิกใช้จำนวน 2,200 ล้านบาท นอกจากนี้แล้ว DMT มีการปันผลอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง โดยในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2568 ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานต่อเนื่องของงบเฉพาะกิจการ ในอัตราหุ้นละ 0.22 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 96 ของกำไรสุทธิจากการดำเนินงานงวด 3 เดือน แรกของปี 2568 เป็นจำนวนเงินกว่า 259.87 ล้านบาท กำหนดขึ้น XD วันที่ 23 พฤษภาคม 2568 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 มิถุนายน 2568
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 2/2568 ตลอดจนถึงสิ้นปีนี้ มีทิศทางเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2568 โดยคาดการณ์ว่า หากเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยว ฟื้นตัวในภาพรวม ปริมาณจราจรก็สามารถเติบโตตาม สภาพเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นได้ โดยตั้งแต่ไตรมาส 4 /2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการจัดเก็บค่าผ่านทางตามอัตราใหม่ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าตามสัญญาสัมปทานทางหลวง รวมทั้งมีการบริหารจัดการด้านรายจ่ายรวมถึงการบริหารผลตอบแทนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และเชื่อมั่นว่า 2 บริษัทย่อย คือ บริษัท เอ สยาม อินฟรา จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านงานวิศวกรรม และ บริษัท แอลฟา ดี เอ็ม เทค จำกัด ซึ่งได้จัดตั้งเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการระบบชำระเงินดิจิทัล ระบบบริหารจัดการการจราจรและความปลอดภัย และระบบบริหารจัดการทรัพย์สิน ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทฯให้เติบโตได้ตามเป้าหมาย
สำหรับ บริษัท เอ สยาม อินฟรา จำกัด ปัจจุบันมีงานในมืออยู่จำนวนมากกว่า 20โครงการ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้มากกว่า 90-100 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2568 ส่วนบริษัท แอลฟา ดี เอ็ม เทค จำกัด ตอนนี้ได้เริ่มดำเนินการในส่วนของการพัฒนาระบบการชำระเงิน และ และมีเป้าหมายสร้างได้มากกว่า 25-30 ล้านบาท
อีกทั้ง DMT ยังให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนด้าน ESG ในการใช้พลังงานทดแทนครบวงจรต่อเนื่องเป็นส่วนช่วยในด้านสิ่งแวดล้อม และยังช่วยให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลง และมีกำไรเพิ่มขึ้นรวมด้วย
“บริษัทฯ ได้เดินตามกลยุทธ์ New Business Venture ขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการเพิ่มธุรกิจและแสวงหาธุรกิจใหม่ๆ ควบคู่กับการเข้าประมูลโครงการ ทั้งงานโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ของภาครัฐโดยมีเป้าหมายหลัก คือ โครงการ M82, M5 และจุดพักรถริมทางหลวง พร้อมทั้งตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณ 10% จากปีก่อน เนื่องจากการจัดเก็บค่าผ่านทางตามอัตราใหม่ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าตามสัญญาสัมปทานทางหลวง โดยที่คาดการณ์ปริมาณการจราจรเฉลี่ยของปี 2568 น่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียง ปี 2567 ซึ่งมีปริมาณการจราจรเฉลี่ยอยู่ที่ 111,922 คันต่อวัน” ดร.ศักดิ์ดา กล่าวในที่สุด
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon