CGSI : Trend Spotter

118

มิติหุ้น – สรุปภาพรวมตลาด : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสาน โดยดัชนี DJIA (-0.6%) ร่วงลงขณะที่ S&P500 (+0.7%) และ Nasdaq (+1.6%) ยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังความตึงเครียดทางการค้าสหรัฐ-จีนเริ่มผ่อนคลาย ประกอบกับรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐเดือนเม.ย. ที่ออกมาต่ำกว่าคาด

(CPI +2.3% yoy ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัวเท่าเดิมจากเดือนมี.ค. ที่ +2.4% yoy; +0.2% mom ต่ำกว่าตลาดคาด +0.3% mom vs. เดือนมี.ค. -0.1% mom)

(Core CPI +0.2% mom ต่ำกว่าตลาดคาด +0.3% mom vs. เดือนมี.ค. +0.1% mom)

ส่งผลให้ตลาดคลายกังวลทั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากภาษีศุลกากรและเงินเฟ้อที่อาจเพิ่มสูง ซึ่งสนับสนุนให้ราคาน้ำมันดิบ WTI +2.8% จากแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจฟื้นตัว ขณะที่ราคาทองคำ +0.6% จากแรงซื้อกลับ

แม้ตลาดหุ้นสหรัฐจะเผชิญแรงขายหุ้น UnitedHealth (-17.8%) กดดัน แต่หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังมีรายงานว่า Nvidia (+5.6%) จะส่งชิป AI ระดับสูงจำนวน 18,000 ตัว ไปยังซาอุดิอาระเบีย ซึ่งสอดคล้องกับการประกาศแผนลงทุน 600,000 ล้านดอลลาร์ ของทรัมป์ที่กล่าวระหว่างการประชุม Riyadh

จับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของประธาน Fed ในงานเสวนา Thomas Laubach Research Conference (15 พ.ค. เวลา 19.40 น. ตามเวลาประเทศไทย)

• SET Index : เราคาดว่า SET Index จะแกว่ง Sideway ยังคงให้กรอบบริเวณ 1,180-1,230 จุด โดย เรามองว่าตลาดหุ้นไทยรับรู้ปัจจัยบวกจากการที่สหรัฐ-จีนบรรลุข้อตกลงทางการค้าไปพอสมควรแล้ว หลังปรับตัวบวกและเผชิญแรงขายเมื่อวานที่ผ่านมา ดังนั้น Upside จากประเด็นนี้จึงจำกัดในความเห็นของเรา เพื่อรอความคืบหน้าใหม่เพิ่มเติม ซึ่งสำหรับไทยนั้น ยังรอการตอบกลับอย่างเป็นทางการจากสหรัฐหลังรัฐบาลไทยได้จัดทำข้อเสนอส่งให้เรียบร้อยแล้ว

ดังนั้น ในช่วงนี้ เรามองว่าตลาดน่าจะให้น้ำหนัก Selective Buy ตามปัจจัยบวกเฉพาะตัวและรายงานผลประกอบการ 1Q25 ที่เข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายของการประกาศ

รายงานผลประกอบการ 1Q25 :
• HANA รายงานกำไรจากการดำเนินงานปกติที่ 253 ล้านบาท (-28% yoy, +2,231% qoq) สูงกว่าที่เราและตลาดคาด 53%/ 166% จากผลขาดทุนจากธุรกิจใหม่ที่น้อยกว่าคาด, GPM ที่ดีกว่าคาดและค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าคาด โดย HANA จะมี Analyst Meeting วันที่ 16 พ.ค.

• PTTGC รายงานขาดทุนสุทธิ 2,556 ล้านบาท (vs. -11,700 ล้านบาท ใน 4Q24) จากการกลับรายการด้อยค่าของ Vencorex แม้ว่า EBITDA ของโอเลฟินและโพลีโอเลฟินจะดีขึ้น แต่การขาดทุนสุทธิจากการดำเนินงานปกติยังมากกว่าที่เราและตลาดคาด เนื่องมาจากธุรกิจอะโรเมติกส์และเคมีภัณฑ์

• SPALI รายงานกำไรสุทธิที่ 404.8 ล้านบาท (-79.6% qoq, -34% yoy) ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด จากรายได้อื่นที่ต่ำกว่าคาด

• หุ้นแนะนำ
CPALL : รายงานกำไรสุทธิ 1Q25 ที่แข็งแกร่งที่ 7.6 พันล้านบาท (+20% yoy, +6% qoq) ดีกว่าที่เราและตลาดคาด เนื่องจากธุรกิจร้านสะดวกซื้อ (CVS) ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นทำนิวไฮและการควบคุม SG&A รวมถึงแรงส่วนแบ่งกำไรจาก CPAXT

นอกจากนี้ เรามองว่าราคาหุ้นมีแรงหนุนจากการประกาศซื้อหุ้นคืนวงเงิน 7,500 ล้านบาท ไม่เกิน 150 ล้านหุ้น (16 พ.ค.-14 พ.ย. 25)

(Take profit : 52.75 / Stop loss : 50.25)

MINT : รายงานกำไรสุทธิ 417 ล้านบาท (-64% yoy, -89% qoq) ใน 1Q25 ต่ำกว่าที่เราคาด จากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร แต่ดีกว่าตลาดคาด ซึ่งโดยปกติจะเป็นไตรมาสที่อ่อนแอสุดสำหรับโรงแรมของ MINT ในยุโรป

ทั้งนี้ เรามองว่าการประเมินมูลค่า MINT ยังน่าสนใจ และราคาหุ้นได้สะท้อนความกังวลเศรษฐกิจอ่อนแอไปแล้ว อีกทั้ง เราเชื่อว่า MINT มีจะได้รับผลกระทบจากภาษีสหรัฐน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับโรงแรมอื่น

(Take profit : 26.25 / Stop loss : 24.80)

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon