มิติหุ้น – WICE โดย บล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า งวด Q1/68 WICE มีกำไรสุทธิ 56 ลบ. พลิกจากขาดทุน 33 ลบ.ใน Q4/68 ซึ่งมีปัญหาค่าระวางเรือทรุด, ต้นทุนน้ำมัน Cross border ในมาเลเซีย และมีค่าใช้จ่ายสำรองด้านเครดิต ขณะที่กำไรขยายตัวได้ +45.9% y-y สรุปดังนี้
Sea Freight เริ่มปกติ โดยรายได้ฟื้น +15.3% q-q และ +3.9% y-y จากเส้นทางใหม่ จีน-สิงคโปร์ ทำให้แม้ค่าระวางยังอยู่ระดับต่ำ แต่ volume ที่เพิ่มขึ้นชดเชยทำให้อัตรากำไรขั้นต้นฟื้นเป็น 22.8% พอๆกับปีก่อน และจากเพียง 3.7% ใน Q4/68
Air Freight ยังไม่ดีนัก รายได้ฟื้นตัวจากฐานต่ำ +45.8% y-y แม้ volume เพิ่มราว +20% y-y แต่รายได้ยังหดตัว -21.1% y-y จากการแข่งขันที่สูงทำให้มีการตัดราคากัน ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น 17.6% ยังต่ำกว่าปีก่อน -381bps
Supply chain solution โดดเด่น ทำได้ดีรายได้โต +34.5% y-y และ +18.2% q-q ตามขนาดพื้นที่ให้บริการเพิ่มแตะ 1 แสน ตร.ม. โดยลูกค้ากลุ่ม Fashion & Retails มีอุปสงค์ที่ดี ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นยืนได้ดี 15.0% vs 8.6% ในปีก่อน
Cross Border กลับสู่เส้นทาง เริ่มปกติหลังรัฐบาลมาเลเซียได้ชดเชยราคาน้ำมันให้ผู้ประกอบการหลังลอยตัวน้ำมันเมื่อ มิ.ย. 67 ขณะที่รายได้เติบโต +18.2% y-y จากการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิที่เติบโตต่อเนื่อง โดยอัตรากำไรขั้นต้นกลับมาเป็นปกติ 14.5% จากเพียง 6.7% ใน Q4/67 ซึ่งมีปัญหา ผสานการวิ่งเที่ยวเปล่าที่ลดลงโดยใช้ AI มาช่วยวิเคราะห์เส้นทาง และการให้ส่วนลดจูงใจลูกค้า
แนวโน้ม Q2/68 : ผบห.มองว่าการชะลอการใช้อัตราภาษี Reciprocal Tariff ออกไป 90 วัน ของจีน-สหรัฐ จะทำให้อาจมีการเร่งส่งออกไปยังสหรัฐมากขึ้น ซึ่งเป็นเส้นทางที่ WICE ให้บริการอยู่แล้ว ผบห.เชื่อว่า volume การขนส่งจะเพิ่มมากขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเราเห็นด้วยว่าจะหนาแน่นต่อเนื่องจาก Q1/68 ที่ยอดส่งออกไทยขยายตัวแข็งแกร่ง +15.3% y-y เป็น 8.1 หมื่นล้านเหรียญ
ในเบื้องต้นเราคาดว่า WICE จะมีกำไรสุทธิ 50-70 ลบ. ในไตรมาส 2 ขยายตัว q-q และใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 74 ลบ.
กรณีศึกษาโดย สศช. : อย่างไรก็ดี ภาคส่งออกของไทยยังมีความเสี่ยงเรื่องมาตรการภาษีของสหรัฐ ซึ่งสภาพัฒน์ฯ (สศช.) มองว่าประเทศไทยมีความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลกในระดับสูง จึงมีโอกาสได้รับผลกระทบมาก ทั้งจากสินค้าไทยไปยังสหรัฐ และสินค้าที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานของจีน
ซึ่งในกรณีฐาน (Base Case) สหรัฐตั้งกำแพงภาษีจีน 54% และจีนตอบโต้ที่ 34% สศช.คาดเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวราว +2.6% y-y (vs ประมาณการก่อนหน้าที่ +3.0% เมื่อ 17 ก.พ. 2025) ซึ่งจะทำให้สมมติฐานการขยายตัวของภาคส่งออกไทยจะลดลงเหลือ 1.8% จากประมาณการเดิมที่ +3.0%
ปรับประมาณการกำไรลง 14.6% : จากมุมมองของ สศช. เราจึงปรับประมาณการกำไรปีนี้ลง 14.6% เป็น 169 ลบ. ยังคงขยายตัวได้ +72.4% y-y จากฐานที่ต่ำ โดยเราปรับลดสมมติฐานการส่งออกไทยขยายตัวเป็น +1.8% อิงตาม สศช. จากสมมติฐานเดิมของเราที่ +2.6%
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นถูกปรับลงจาก 16.4% เป็น 15.0% เนื่องจากการแข่งขันที่ยังคงสูงใน Air freight และ กลยุทธ์ด้านราคาของ Cross border เพื่อลดปริมาณวิ่งเที่ยวเปล่าขากลับ ซึ่งการอิงกับ P/E เฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังที่ 16.4x ราคาเหมาะสมถูกปรับลง 2.2% เป็น 4.30 บาท
“ปี 67 ที่น่าผิดหวังได้ผ่านไปแล้ว ขณะที่แนวโน้มครึ่งแรกปี 68 การเร่งขนส่งสินค้าช่วง Grace period90 วัน จะทำให้ผลการดำเนินงานใน Q2/68 จะยังดีต่อได้จาก Q1/68 โดยนำสมมติฐานการส่งออกไทยจากรณีฐานของสภาพัฒน์ฯล่าสุดเข้าไป ทำให้แม้ว่าประมาณการกำไรสุทธิจะถูกปรับลง14% แต่กำไรปีนี้คาดยังโตได้ดีจากฐานต่ำ +72.4%y-y ซึ่งเมื่ออิงกับค่าเฉลี่ย P/E 3 ปี 16.4 เท่า ระหว่างนี้ WICE จะพอมีช่องว่างของการเก็งกำไรกับข่าวการผ่อนคลายสงครามการค้าระหว่างนี้ได้อีกราว 41.4%”
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon