CPN เดินหน้าจัด Pride Month พาเหรด LGBTQIA+ ชูความหลากหลายทางเพศ อิสระแสดงออก เท่าเทียม หลักสิทธิมนุษชน หวังสร้างEngage กับคนทุกกลุ่ม ตอบโจทย์ซอฟต์พาวเวอร์ พื้นที่ปลอดภัย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีรุ้ง (Rainbown Economy) หวังเงินสะพัด 1.5 แสนล้านบาท ยกระดับสู่เจ้าภาพ “World Pride” ปี 2573
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ๋ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา หรือ CPN เปิดเผยว่า วิธีการส่งต่อคุณค่าเป็นแบรนด์ที่ทำให้อนาคตทุกคนดีขึ้น (Better future for all) จึงเชื่อมต่อกับผู้บริโภค ด้วยการสื่อสารผ่านกิจกรรมต่างๆ โดยในไตรมาสที่ 2 เป็นฤดูกาลท่องเที่ยว และเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะซบเซา (Low Season) ทำให้ต้องมีการจัดกิจกรรมกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภค ควบคู่กับการสร้างปฏิสัมพันธ์ กับผู้บริโภค (Engagement) ด้วยการชูกิจกรรมในเดือนแห่งความหลากหลายทางเพศ (Pride Month) หรือ “Bankok Pride Parade 2025” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 นี้
CPN ชู Brand Love คนสีรุ้ง
สำหรับ เป้าหมายการจัดกิจกรรมเป็นการตอกย้ำแบรนด์ CPN ส่งเสริมเรื่อง เสรีภาพ (Freeedom), สิทธิมนุษยชน (Human right), ความหลากหลาย และความเท่าเทียมทางเพศ ถือเป็นพื้นฐานของที่ทุกคนจะต้องการเปิดเผยตัวตนได้อย่างอิสระ หากประเทศไทยสามารถยอมรับอย่างกว้างขวาง จะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจขนาดใหญ่ (Massive Impact) โดยเฉพาะ “เศรษฐกิจสีรุ้ง” (Rainbow Economy) ในกลุ่มLGฺBTQIA+ ทั่วโลกกว่า 400-800 ล้านคน สัดส่วน 5-10% ของประชากรโลก ในไทยมีมากกว่า 6 ล้านคน คาดว่าจะสร้างเงินสะพัดสู่เศรษฐกิจกว่า 1.5 แสนล้านบาตต่อปี สัดส่วน 0.3% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่าจะมีผู้มาร่วมงาน 1.3 ล้านคน ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วเพิ่มขึ้นถึง 3 แสนคน เพราะมีการเพิ่มพื้นที่ พร้อมกันกับ ขยายสาขาจัดงานในเครือเซ็นทรัล เป็น 39 สาขาพร้อมกันทั่วประเทศ
ท่องเที่ยวสีรุ้ง 3.5 แสนล้านดอลต่อปี
โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดรายได้จากนักท่องเที่ยว กลุ่ม Rainbow Tourism จะสูงถึง 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี สำหรับมูลค่าตลาดท่องเที่ยวทั่วโลกจากกลุ่มนี้ ปี 2568 อยู่ที่ราว 357,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีแนวโน้มเติบโตสู่ 604,340 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2575 โอกาสส่งเสริม Soft Power คาดจะสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยว สูงถึง 67,000 ล้านบาทต่อปี สามารถพัฒนาสู่ธุรกิจบันเทิง(Rainbow Entertainment)ถึง 2,000 ล้านบาทต่อปี’
สู่เจ้าภาพระดับโลก
“หลังจากจัดงานมากว่า 4-5 ปี ทำให้เกิดการรับรู้กรุงเทพ เป็นเมืองที่ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ สร้างเม็ดเงินและอิทธิพลทางวัฒนธรรมในไทยเป็น Soft power ยอมรับไปทั่วโลก มีทั้งซีรีส์ Girl Love และBoy Loveที่ได้รับความนิยม “
ดังนั้น จึงมีการขยายความร่วมมือกับทั้งภาครัฐ และเอกชน หลังจากผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียน และเป็นอันดับ 3 ในเอเชีย ต่อจากไต้หวัน และเนปาล ช่วยยกระดับการจัดงานไปสู่ระดับโลก โดยการร่วมมือเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลก “World Pride” ในปี 2573 ที่กรุงเทพฯ สร้างปรากฎการณ์เป็น “Pride Landmark” ชูจุดขายประเทศไทยเป็นพื้นที่ปลอดภัย สำหรับประชากรLGBTQIA+
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
