ธุรกิจอาหาร-ร้านอาหาร ปรับตัวฝ่าปัจจัยลบ ด้าน อินฟอร์มา เผย 3 กลุ่มธุรกิจอาหาร ที่มีศักยภาพ พร้อมแนะผู้ประกอบการร่วมงาน Food & Hospitality Thailand 2025 หา เครื่องมือเสริมทัพธุรกิจ ทั้งวัตถุดิบพรีเมียม เทคโนโลยีอุปกรณ์ใหม่ และกิจกรรมเสริมความรู้

20

มิติหุ้น – สถานการณ์ธุรกิจอาหาร-ร้านอาหารวันนี้ ต้องปรับตัวเพื่ออยู่รอดพร้อมลุยฝ่าคลื่นธุรกิจสู้ปัจจัยลบ ด้าน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย เผยข้อมูล 3 กลุ่มธุรกิจอาหารที่ยังมีศักยภาพ แนะรักษาพื้นฐานหัวใจสำคัญของธุรกิจ คุณภาพ รสชาติ บริการ และการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมชวนผู้ประกอบการร่วมงาน Food & Hospitality Thailand 2025 เสริมศักยภาพธุรกิจ เตรียมจัดแสดงสินค้าและวัตถุดิบพรีเมียม นวัตกรรมและเทคโนโลยีอุปกรณ์ใหม่ กิจกรรมเสริมความรู้ การแข่งขัน และ เวิร์กชอป จากผู้เชี่ยวชาญและพันธมิตรจากองค์กรเอกชนและสมาคมธุรกิจกว่า 20 องค์กร

นางสาวสุภาภรณ์ อังศรีสุรพร ผู้จัดการฝ่ายบริหารโครงการอาวุโส อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ผู้จัดงาน Food & Hospitality Thailand (FHT) 2025 กล่าวถึง ทิศทางของธุรกิจอาหารและร้านอาหารว่า ภาพรวมของธุรกิจปีนี้อยู่บนความท้าทายอย่างมาก จากการได้รับผลกระทบในหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นต้นทุนวัตถุดิบและการบริหารจัดการที่เพิ่มขึ้น กำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัว จำนวนนักท่องเที่ยวที่ไม่เป็นไปตามเป้า และการแข่งขันที่รุนแรงจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วนแนวโน้มของธุรกิจอาหารและร้านอาหารที่ยังมีศักยภาพและเติบโตได้มี 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มอาหารและร้านอาหารพรีเมียม ซึ่งจับลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง กลุ่มร้านอาหารที่มีจุดเด่นเฉพาะ ร้านที่มีรางวัลการันตี หรือ มีชื่อเสียงมายาวนาน ซึ่งร้านอาหารในกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่แวะเวียนมาเพื่อชิมและรับประทานอาหารหมุนเวียนอย่างสม่ำเสมอ และ กลุ่มธุรกิจอาหารแบบ Fast Fashion Food เป็นกลุ่มที่กำลังเป็นกระแสขณะนี้ มีลักษณะการดำเนินธุรกิจที่รวดเร็ว ไม่เน้นการขยายสาขาของแบรนด์เดิม แต่เน้นการสร้างแบรนด์ใหม่ที่ต่อเนื่อง ปรับตัวตามเทรนด์และพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างความสดใหม่และดึงดูดลูกค้า

อย่างไรก็ตามหัวใจสำคัญของธุรกิจอาหารและร้านอาหารยังคงอยู่ที่พื้นฐาน คือ การรักษาคุณภาพและรสชาติ การบริการที่ดี และการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ส่วนสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นความแปลกใหม่ ความคิดสร้างสรรค์ การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการลดต้นทุนและการดำเนินธุรกิจ กลยุทธ์การตลาดและการสื่อสาร ฯลฯ เป็นตัวช่วยและเป็นเครื่องมือในการแข่งขันผลักดันให้ธุรกิจยืนอยู่ได้ในภาวะการณ์ปัจจุบัน ซึ่งงาน FHT 2025 ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ จะมีการจัดแสดงสินค้าวัตถุดิบ เครื่องปรุง และเครื่องดื่มประเภทมีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์กว่า 200 แบรนด์ อุปกรณ์ครัว นวัตกรรมและเทคโนโลยีของอุปกรณ์และโซลูชั่นที่ใช้ในธุรกิจอาหารกว่า 150 แบรนด์ ผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจอาหารและร้านอาหารอีกกว่า 300 แบรนด์ จากผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชั้นนำทั้งไทยและนานาชาติ ใน 8 โซนแสดงสินค้า ได้แก่ Food & Drinks, Cafe & Bakery, Shop & Retail, Sips & Spirits, Foodservice Equipment, Hospitality Technology, Hospitality Style และ Cleaning Supplies & Equipment นอกจากนั้นยังมีกิจกรรม เวิร์กชอป การแข่งขัน และการสัมมนาให้ความรู้ในหัวข้อสำคัญจากผู้เชี่ยวชาญ องค์กรเอกชนและสมาคมธุรกิจกว่า 20 องค์กร อาทิ สมาคมโรงแรมไทย สมาคมภัตตาคารไทย สมาคมเชฟประเทศไทย สมาคมค้าปลีกไทย สมาคมสปาไทย ฯลฯ หัวข้อในการสัมมนา อาทิ สัมมนา Amazing Grand Thailand ตามนโยบายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สัมมนา Green & Sustainable Tourism เวิร์กขอป Wine Masterclass และ เวิร์กชอปทำอาหารและเครื่องดื่มจากสถาบันชั้นนำและผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านนายสเตฟาโน เจอราดิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีแอลทีอิตาเลีย จำกัด (GLT Italia) ผู้นำเข้าไวน์ชั้นนำจากอิตาลี กล่าวถึงการเติบโตของตลาดไวน์ในประเทศไทยว่า ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาความต้องการไวน์กลุ่มไฮเอนด์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผู้บริโภคให้ความสนใจกับพันธุ์องุ่นที่ไม่คุ้นเคยเพื่อแสวงหารสชาติที่หลากหลายและประสบการณ์ใหม่ในการดื่ม ดังนั้น GLT Italia จึงมุ่งเน้นในการนำเข้าไวน์พื้นเมืองจากอิตาลีที่ยังไม่เป็นที่รู้จักในตลาดมากขึ้น โดยให้ความสำคัญในการถ่ายทอดเบื้องหลังของไวน์แต่ละชนิด พร้อมมีการเปิดให้ชิมเพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์พร้อมเชื่อมโยงรสชาติ เรื่องราว และวัฒนธรรมการดื่มไวน์ในรูปแบบใหม่ๆ

โดยความสำคัญของงาน FHT 2025 ที่มีต่อธุรกิจและตลาดไวน์นั้น ถือเป็นเวทีที่ตอบโจทย์สำหรับกลุ่มธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจการจัดเลี้ยงอย่างครบถ้วน เป็นโอกาสที่จะได้พบกับผู้ประกอบการตัวจริงและได้แลกเปลี่ยนกับผู้บริโภครุ่นใหม่ ในงานฯ ปีนี้ ทางบริษัทได้เตรียมไฮไลต์สำคัญ คือ ไวน์จากพันธุ์องุ่นหายาก ซึ่งจะเปิดตัวเป็นครั้งแรก อาทิ Cococciola ไวน์ขาวหอมสดชื่นจากแคว้นอาบรุซโซ, Croatina ไวน์แดงเข้มข้นจากแคว้นลอมบาร์เดีย, Pignoletto พันธุ์องุ่นที่ทำให้ไวน์ซ่าแบบธรรมชาติคล้าย Prosecco, Vespolina องุ่นแดงสายพันธุ์โบราณที่ขึ้นชื่อเรื่องรสสัมผัสและความหายาก ฯลฯ  ส่วนกิจกรรมที่น่าสนใจมีทั้ง Workshop และไวน์มาสเตอร์คลาส การพูดคุยผ่านระบบ Conference Call กับผู้ผลิตไวน์จากอิตาลี การชิมไวน์และให้ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับพันธุ์องุ่นหายากจากภูมิภาคต่างๆ ของอิตาลี ฯลฯ จึงอยากเชิญชวนให้ผู้สนใจแวะมาที่บูธของเราได้

ด้านนายไมค์ ฮง ชิน ลี กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจในเครือ วีเจ กรุ๊ป (VJ Group) หนึ่งในผู้นำด้านเครื่องครัวอุตสาหกรรม และผู้นำด้านธุรกิจเครื่องซักผ้าสำหรับร้านสะดวกซักแบบ Non-Franchise ในประเทศไทยกล่าวว่า “วันนี้ โรงแรม ร้านอาหาร และผู้ให้บริการต่าง ๆ ต้องการอุปกรณ์ที่ช่วยลดการพึ่งพาแรงงาน และยังคงคุณภาพของการให้บริการได้อย่างสม่ำเสมอ VJ Group จึงมุ่งพัฒนา และคัดสรรโซลูชันที่ตอบโจทย์ทั้งประสิทธิภาพ เทคโนโลยี และการใช้งานจริง”

VJ Group ดำเนินธุรกิจผ่าน 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ KitchenWorld ศูนย์รวมอุปกรณ์ครัวอุตสาหกรรม แบรนด์ชั้นนำจากต่างประเทศ Purezza  เครื่องผลิตน้ำดื่มพรีเมียมจากประเทศอังกฤษ ดีไซน์ทันสมัยเหมาะกับโรงแรม และร้านอาหารยุคใหม่ ลดการนำเข้าน้ำดื่มแบบขวด ส่งเสริมความยั่งยืน Thermomix หุ่นยนต์ทำอาหารอัจฉริยะจากประเทศเยอรมนี ที่รวมความหลากหลายไว้ในเครื่องเดียว สามารถปรุงอาหารได้มากกว่า 1 แสนสูตรอาหารจากทั่วโลก และSpeed Queen By VJ Group ผู้นำด้านธุรกิจร้านสะดวกซักแบบ Non-Frianchise เครื่องซักผ้า และเครื่องอบผ้าคุณภาพสูงจากประเทศสหรัฐอเมริกา การเข้าร่วมงาน FHT 2025 ในปีนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญของ VJ Group ในการพบปะกับกลุ่มผู้ประกอบการที่มีอำนาจตัดสินใจโดยตรง พร้อมขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยมีเป้าหมายในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยนวัตกรรมอัจฉริยะที่ลดการพึ่งพาแรงงาน เพิ่มประสิทธิภาพ และคุ้มค่าการลงทุน

ส่วนนางสาวจิราธิวัฒน์  เชื้อสมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิวตั้น ฟู้ด อิควิปเม้นท์ จำกัด ผู้นำเข้าและผู้แทนจำหน่ายอุปกรณ์ครัวและเบเกอรี่จากทั่วโลกกว่า 30 แบรนด์ กล่าวถึง แนวโน้มตลาดอุปกรณ์ครัวเชิงพาณิชย์และการปรับตัวสู่เทคโนโลยีครัวยุคใหม่ว่า แม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่กลุ่มร้านอาหาร เบเกอรี่ และเครื่องดื่มยังมีการลงทุน เพื่อลดภาระต้นทุนแรงงาน โดยหันมาใช้อุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีทันสมัยแทน นิวตั้น จึงเน้นนำเข้าสินค้าที่ช่วยผู้ประกอบการส่วนนี้มากขึ้น พร้อมการสนับสนุนหลังการขาย ด้วยทีมเชฟและวิศวกรในการออกแบบครัวอย่างครบวงจร

สำหรับการร่วมงานกับ FHT 2025 ซึ่งเป็นงานที่ได้รับการตอบรับดีจากกลุ่มลูกค้า ทำให้ในปีนี้นิวตั้นมีไฮไลท์ในการเปิดตัวแบรนด์สินค้าพรีเมียมใหม่จากยุโรปที่เชฟระดับโลกให้การยอมรับครั้งแรกของประเทศไทย พร้อมทั้งมีการสาธิตการใช้งานจริงโดยเชฟชั้นนำเพื่อให้ผู้ประกอบการสัมผัสการใช้งานได้อย่างใกล้ชิด

สำหรับงาน Food & Hospitality Thailand (FHT) 2025 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 สิงหาคม 2025 ชั้น G ฮอลล์ 1-4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผู้สนใจข้อมูลการจัดงานสามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.fhtevent.com Facebook : Food & Hospitality Thailand

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon