บมจ.เอ็นแอลซูเปอร์แท็กซ์แนะวิธีการตั้งสำรองหนี้สูญอย่างถูกกฎหมาย ยืนยันผู้ประกอบการส่วนใหญ่ขาดความเข้าใจและเสียสิทธิประโยชน์ทางภาษี

8

มิติหุ้น – บริษัท เอ็นแอล ซูเปอร์แท็กซ์ จำกัด (มหาชน) เผยมีผู้ประกอบการจำนวนมากแบกรับภาระเองเมื่อลูกค้าหนี้ไม่ชำระ เพราะไม่เข้าใจเรื่องการตั้งสำรองหนี้สูญอย่างถูกกฎหมาย ทำให้เสียสิทธิประโยชน์เพราะไม่นำมาเป็นค่าใช้จ่าย  แนะวิธีช่วยประหยัดภาษีและดำเนินการอย่างถูกต้องตามที่สรรพากรกำหนด

               นายนิพนธ์ งามทรัพย์ทวีคูณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นแอล ซูเปอร์แท็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NL SUPER TAX เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการธุรกิจจำนวนมากไม่เข้าใจสิทธิประโยชน์ของการตั้งสำรองหนี้สูญ หากลูกค้าไม่จ่ายหนี้ส่วนใหญ่จะแบกรับความเสียหายไว้เอง โดยไม่รู้ว่าสามารถนำหนี้สูญมาเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ แต่ต้องทำอย่างถูกวิธีตามที่สรรพากรกำหนด ดังนั้น ผู้บริหารระดับสูงและผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีที่ปรึกษาและทำความเข้าใจเงื่อนไขการตั้งสำรองหนี้สูญว่าต้องดำเนินการอย่างไรเพื่อได้ประโยชน์สูงสุด

“ส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่าเมื่อลูกหนี้ผิดนัดชำระสามารถตัดเป็นหนี้สูญได้ทันที แต่ความจริงแล้วสรรพากรกำหนดเงื่อนไขชัดเจนว่า ธุรกิจต้องดำเนินการติดตามทวงถามอย่างเต็มที่ และในบางกรณีต้องฟ้องร้องดำเนินคดีด้วย นอกจากนี้แล้วยังเข้าใจว่าสามารถตั้งสำรองหนี้สูญได้ตามที่ต้องการ หรือสามารถตั้งสำรองเท่าใดก็ได้แล้วนำไปหักเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ทั้งหมด หรือแม้แต่เข้าใจผิดว่าเมื่อตัดเป็นหนี้สูญแล้วหากลูกค้ากลับมาชำระไม่ต้องรับรู้รายได้  ทั้งที่จะต้องนำมารับรู้เป็นรายได้ในงวดที่ได้รับชำระมิเช่นนั้นอาจมีความผิดทางภาษี” นายนิพนธ์กล่าว

นายนิพนธ์เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การตั้งหนี้สูญที่ถูกต้องตามกฎหมายจะต้องเป็นไปตามที่สรรพากรกำหนด  กล่าวคือหากหนี้ไม่เกิน 200,000 บาทสามารถตัดเป็นหนี้สูญได้ แต่ต้องดำเนินการติดตามทวงถาม และควรมีหลักฐานการทวงถาม และต้องเป็นหนี้ค้างชำระเกิน 6 เดือนนับจากวันที่ทวงถาม จึงสามารถนำมาตั้งเป็นหนี้สูญในบัญชีของบริษัทได้ แต่ถ้าเป็นหนี้ตั้งแต่ 200,000-2,000,000 บาท ต้องดำเนินการติดตามทวงถามและฟ้องลูกหนี้ในคดีแพ่ง เมื่อศาลมีคำสั่งรับฟ้องแล้วจึงสามารถตั้งเป็นหนี้สูญในบัญชีของบริษัทได้ แต่สำหรับหนี้ที่มีมูลค่าเกิน 2,000,000 บาท ต้องดำเนินการถึงขั้นตอนสุดท้ายและฟ้องลูกหนี้ในคดีแพ่ง หากศาลมีคำพิพากษาให้มีการบังคับคดียึดทรัพย์แต่ไม่มีทรัพย์สินหรือไม่พอชำระหนี้สามารถนำมาตั้งเป็นหนี้สูญในบัญชีของบริษัทได้

กรณีศึกษาบริษัทจำหน่ายเครื่องสำอางออนไลน์แห่งหนึ่ง มีลูกหนี้ค้างชำระจำนวน 15 ล้านบาท ติดตามทวงถามแล้วแต่ไม่ได้รับชำระจึงตัดเป็นหนี้สูญทันทีโดยไม่ฟ้องร้อง เมื่อสรรพากรตรวจสอบจึงถูกปฏิเสธการหักค่าใช้จ่ายและถูกประเมินภาษีเพิ่มกว่า 300,000 บาท พร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม ดังนั้น ผู้ประกอบการจะต้องจัดการหนี้สูญอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสามารถนำมาลดหย่อนภาษี เช่น ติดตามอายุหนี้อย่างเป็นระบบ จัดทำรายงานอายุลูกหนี้เป็นประจำทุกเดือน และมีมาตรการติดตามทวงถามตามอายุหนี้ ที่สำคัญจะต้องเก็บหลักฐานการติดตามทวงถามอย่างครบถ้วน เก็บสำเนาจดหมายทวงถาม บันทึกการโทรติดตาม หรือแม้แต่อีเมลและข้อความทวงถามทั้งหมด เนื่องจากมีความสำคัญต่อการตั้งสำรองและตัดหนี้สูญอย่างถูกต้องตามกฎหมายภาษี

การดำเนินการอย่างถูกต้องนอกจากจะช่วยประหยัดภาษีแล้วยังสะท้อนสถานะทางการเงินที่แท้จริงของบริษัท ทำให้ตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญการจัดการหนี้สูญไม่ต้องรอจนกว่าสิ้นปีบัญชีแต่ควรทำเป็นประจำทุกไตรมาสเพื่อให้มีเวลาเพียงพอในการดำเนินการตามขั้นตอนที่สรรพากรกำหนด สำหรับผู้ที่ต้องการปรึกษาด้านบัญชีและภาษีสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 098-956-5256 หรือ https://www.facebook.com/people/NL-Supertax/61558643228763/

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon