มิติหุ้น – Trend Spotter
• สรุปภาพรวมตลาด : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก โดยดัชนี DJIA +0.3% ขณะที่ S&P500 +0.6% และ Nasdaq +0.6% ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สาม ขานรับความหวังต่อความคืบหน้าเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนที่ดำเนินต่อเป็นวันที่ 2 ในกรุงลอนดอน หลังปธน. ทรัมป์และ นายลุตนิก รมว. พาณิชย์ ส่งสัญญาณเชิงบวก ซึ่งอาจนำไปสู่ความคืบหน้าในการคลี่คลายข้อพิพาททางการค้าโลก โดยมีรายงานว่าสหรัฐฯ กำลังพิจารณาผ่อนคลายนโยบายควบคุมการส่งออกเทคโนโลยี
หากจีนยอมลดข้อจำกัดในการส่งออกแร่หายาก ซึ่งจำเป็นต่ออุตสาหกรรมยุทธศาสตร์
นอกจากนี้ ยังมีแรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคฯ หลังมีการประกาศนวัตกรรมด้าน AI หลายรายการในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงจับตาความเสี่ยงเงินเฟ้อจากภาษีศุลกากรบางส่วนที่ยังคงมีผลบังคับใช้ ซึ่ง Fed มีความกังวลว่าผลกระทบด้านราคาอาจยังไม่สะท้อนเต็มที่ในข้อมูลเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน ธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโลกปี 2025 เหลือ 2.3% (จาก 2.7%) จากแรงกดดันด้านการค้า
ดังนั้น จึงต้องติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ พ.ค. คืนนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของ Fed ระยะถัดไป โดยตลาดคาดว่าดัชนี CPI จะขยายตัว 2.5% yoy (vs. เม.ย. +2.3%) และ Core CPI ขยายตัว 2.9% yoy (vs. เม.ย. +2.8%)
นอกจากนี้ ติดตามการประชุม BoE ในวันที่ 19 มิ.ย. หลังข้อมูลตลาดแรงงานของอังกฤษที่ออกมาอ่อนแอ หนุนความคาดหวังต่อการปรับลดดอกเบี้ย ส่งผลให้ดัชนี FTSE +0.2% เข้าใกล้ระดับสูงสุดใหม่
ส่วนราคาน้ำมันดิบ WTI -0.5% จากแรงกดดันด้านอุปทาน หลังมีแนวโน้มว่า OPEC+ อาจเพิ่มกำลังการผลิต ขณะที่ตลาดจับตาความคืบหน้าการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งอาจกระทบต่อทิศทางอุปสงค์พลังงาน รวมถึงติดตามตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบจาก EIA คืนนี้
ด้านราคาทองคำ -0.3% อ่อนตัวจากแรงขายตามดอลลาร์ที่แข็งค่า ท่ามกลางบรรยากาศรอความชัดเจนในนโยบายเศรษฐกิจโลก
• SET Index : เราคาดว่า SET Index จะเคลื่อนไหวซึมตัวในกรอบจำกัด บริเวณ 1,130-1,150 จุด แม้จะมีแรงหนุนตาม Sentiment บวกเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนที่มีขึ้นเป็นวันที่ 2 พร้อมสัญญาณเชิงบวกจากปธน. ทรัมป์และรมว. พาณิชย์ ลุตนิก รวมถึงการที่สหรัฐฯ ตอบรับเจรจาการค้าไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก และ แนวโน้มดอกเบี้ยขาลง แต่เรามองว่า Upside ยังจำกัด เนื่องจากตลาดหุ้นไทยยังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะความชัดเจนทิศทางการเมืองที่ต้องติดตาม เพราะส่งผลต่อความเชื่อมั่น ท่ามกลางเศรษฐกิจไทยที่อ่อนตัว
ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐยังไม่มีความคืบหน้า หลังการประชุมบอร์ดใหญ่กระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อพิจารณาการนำงบฯ 1.57 แสนล้านบาทจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 11 มิ.ย. ขณะเดียวกัน ความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทย-ภูมิใจไทยยังสร้างความกังวลต่อความล่าช้าในการขับเคลื่อนนโยบาย
เราจึงแนะนำจับตาประเด็นต่อไปนี้
1) การปรับครม. ที่คาดว่าจะมีขึ้นเร็วๆ นี้
2) ประเด็นคดีอดีตนายกฯ ทักษิณ ทั้งจากมติแพทยสภา (12 มิ.ย.) และการไต่สวนของศาลฎีกา (13 มิ.ย.)
ด้านกลยุทธ์ เราจึงแนะนำ Trading Buy หุ้น Defensive (PR9), พื้นฐานแข็งแกร่ง (GULF), High-yield (SCB) และกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง (MTC) ขณะเดียวกัน วันนี้อาจเห็นแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มส่งออก (CPF, ITC) และนิคมฯ (AMATA, WHA) ที่ได้ Sentiment บวกจากความคืบหน้าการค้าที่อาจคลี่คลายลง และเนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ที่ชัดเจน เราจึงแนะนำระมัดระวังแรงขายทำกำไรหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาพอสมควรเมื่อวานนี้
ประเด็นสำคัญอื่นๆ ได้แก่ Delta ไต้หวัน รายงานรายได้เดือนพ.ค. ที่ NT$41bn (+17% yoy, +1% mom) หนุนรายได้เฉลี่ย 2Q25 โต 3.2% qoq แม้จะใกล้เคียงกับที่เราคาด แต่ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงแนวโน้มการเติบโตของยอดขาย qoq ที่ค่อนข้างชะลอตัวสำหรับ Delta Thailand ทั้งนี้ เราคาดว่า DELTA จะมีกำไรสุทธิหลัก 2Q25 ที่ 5.33 พันลบ. (-14% yoy, +8% qoq) จากยอดขาย 44.6 พันลบ. (+7% yoy, +4% qoq)
• หุ้นแนะนำ
SCB : SCB เป็นธนาคารที่มีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ในตลาดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยอยู่อาศัยใน 1Q25 และถึงแม้ว่าอัตราส่วน NPL ของสินเชื่อกลุ่มนี้จะเพิ่มสูงขึ้น แต่ SCB เชื่อมั่นในการบริหารจัดการความเสี่ยง รวมทั้งมีการตั้งสำรองหนี้สูญอย่างเพียงพอ
(Take profit : 122.0 / Stop loss : 119.5)
GULF : เราชอบ Gulf จากกำไรที่เติบโตสม่ำเสมอ, งบดุลที่แข็งแกร่ง, สถานะผู้นำตลาดและการขยายธุรกิจสาธารณูปโภคและ LNG ส่วนกำไรที่เติบโตของธุรกิจใหม่จะช่วยหนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น
(Take profit : 44.25 / Stop loss : 43.25)
#MacroWealthResearch
#CGSInternational
#CGSI
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
