ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีน ยังคงยืดเยื้อ
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
(-) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับลดลง หลังตลาดยังคง จับตารอความชัดเจนจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังคงดำเนินต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ณ กรุงลอนดอน เนื่องจากผลลัพธ์ของการเจรจาดังกล่าวจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก
(-) ธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปี 2025 ลง 0.4% จากเดิม 2.7% ลงเหลือ 2.3% โดยระบุว่ามาตรการภาษีศุลกากรที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ เป็นอุปสรรคสำคัญต่อเศรษฐกิจของทุกประเทศ
(-/+) ตลาดจับตาตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ (CPI) เดือน พ.ค. 68 ที่จะประกาศในวันนี้ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือน เม.ย.68 ที่ระดับ 2.3% ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2.5%
(+) สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณ น้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 มิ.ย. 68 ปรับ ลดลง 370,000 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน : ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากปริมาณการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นของประเทศจีน และอินโดนีเซียซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในภูมิภาคเอเชียที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินจากตะวันออกกลางมายังเอเชีย มีแนวโน้มลดลง
ราคาน้ำมันดีเซล : ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังการนำเข้าน้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยานของฮ่องกงในเดือน เม.ย. ปรับลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงมีแรงหนุนหลังอินเดียลดการส่งออกน้ำมันดีเซลมายังเอเชีย เหลือ 25,000 บาร์เรลต่อวันในเดือน มิ.ย. ซึ่งลดลงจาก 190,000 บาร์เรลต่อวันในเดือน พ.ค. โดยมีการส่งออกไปยังภูมิภาคยุโรปเพิ่มมากขึ้น
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon