มิติหุ้น – “ออกกำลังกายเป็นประจำ กินคลีนทุกวัน ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ จะเป็นโรคหัวใจได้ยังไง?” คำถามนี้อาจเป็นสิ่งที่หลายคนสงสัย เพราะเชื่อว่าแค่ดูแลสุขภาพให้ดีก็เพียงพอแล้ว แต่ความเป็นจริง โรคหัวใจไม่ได้เลือกเฉพาะคนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงเท่านั้น แม้คนที่ดูแข็งแรงจากภายนอกก็อาจไม่รู้ตัวว่าหัวใจกำลังส่งสัญญาณบางอย่างอยู่
การออกกำลังกายแม้จะช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกาย และลดความเสี่ยงของโรคหลายชนิด แต่ก็ไม่ได้เป็นเกราะป้องกันโรคหัวใจได้ 100% โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบแฝง ดังนั้น การออกกำลังกายอย่างหนักอาจกระตุ้นให้เกิดภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หรือหัวใจวายเฉียบพลันได้
หัวใจวายเฉียบพลันไม่ใช่เรื่องไกลตัว
หลายครั้งเราพบข่าวนักวิ่งมาราธอนในวัยเพียง 20–30 ปี ล้มหมดสติขณะวิ่ง และเสียชีวิตด้วยภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ทั้งที่ไม่มีโรคประจำตัว หรือประวัติเจ็บป่วยใด ๆ มาก่อน
เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่สะท้อนว่าโรคหัวใจสามารถคุกคามได้ในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบ และมั่นใจในสุขภาพของตนเองมากเกินไป เช่น ออกกำลังกายหนักโดยไม่ตรวจสุขภาพก่อน หรือคิดว่าออกกำลังกายแล้วสามารถกินอะไรก็ได้ ยิ่งไปกว่านั้น โรคหัวใจแต่กำเนิด ลิ่มเลือดอุดตัน และภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ล้วนเกิดขึ้นได้แม้ในผู้ที่ดูสุขภาพดีจากภายนอก
แพทย์หญิง ฐิศิรักน์ ฉินนะโสต แพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจ โรงพยาบาลวิมุต–เทพธารินทร์ กล่าวว่า แม้จะออกกำลังกายเป็นประจำ กินอาหารดี แต่หากมีพันธุกรรมของโรคหัวใจ หรือมีไขมันสะสมในเลือด ก็ยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้ หลายคนเสียชีวิตกะทันหันเพราะไม่เคยตรวจสุขภาพหัวใจมาก่อน ความฟิตของร่างกายภายนอกไม่ได้สะท้อนความแข็งแรงของหลอดเลือดหัวใจภายใน ดังนั้น ผู้ที่อายุ 35 ปีขึ้นไป ควรตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และอัลตราซาวด์หัวใจ เพื่อประเมินภาวะหัวใจ สำหรับนักกีฬาหรือผู้ที่ออกกำลังกายหนัก โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ ควรตรวจสุขภาพหัวใจก่อนเริ่มโปรแกรมออกกำลังกายอย่างจริงจัง
โรคหัวใจหลายชนิด เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ หลอดเลือดหัวใจตีบ กล้ามเนื้อหัวใจหนา อาจไม่แสดงอาการใด ๆ จนกระทั่งเกิดเหตุฉับพลัน และอาจเกิดได้แม้ในผู้ที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงชัดเจน เช่น โรคอ้วนหรือเบาหวาน ดังนั้น การดูแลหัวใจที่ดีจึงไม่ใช่เพียงการรักษาเมื่อเจ็บป่วย แต่คือการเฝ้าระวัง ป้องกัน และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างเหมาะสม
สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำหรือผู้ที่เริ่มออกกำลังกาย ควรสังเกตอาการผิดปกติต่อไปนี้อย่างใกล้ชิด ได้แก่ เจ็บหน้าอกขณะออกกำลังกายหรือมีอาการเจ็บหน้าอกร้าวมายังแขนซ้าย หัวใจเต้นผิดจังหวะ เหนื่อยหอบแม้ในขณะพัก เหนื่อยง่ายกว่าปกติ หมดสติระหว่างออกกำลังกาย ขาบวมหรือข้อเท้าบวม หายใจไม่สะดวกเวลานอนราบ รู้สึกอ่อนเพลียผิดปกติ อัตราการเต้นของหัวใจไม่สม่ำเสมอ หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคหัวใจในระยะเริ่มต้น หรือภาวะฉุกเฉินที่ต้องได้รับการรักษาทันที
อาหาร…ตัวแปรสำคัญต่อสุขภาพหัวใจ
ปัจจัยเสี่ยงบางอย่างอาจจะควบคุมได้ เช่น ออกกำลังกายพอเหมาะ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ แต่เรื่องอาหารเป็นหนึ่งปัจจัยที่ใครหลายคนยังคงละเลย ทั้งที่ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อสุขภาพหัวใจในระยะยาว ซึ่ง ดร.ปัทนภา ศรีชมเชย นักกำหนดอาหารวิชาชีพ และผู้อำนวยการสายงานปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และบริการการศึกษา โรงพยาบาลวิมุต–เทพธารินทร์ กล่าวว่า อาหารที่ดีต่อหัวใจไม่จำเป็นต้องมีรสจืดจนกินไม่ได้ แต่ควรเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยสนับสนุนการทำงานของหัวใจ และลดอาหารที่มีผลเสียต่อหลอดเลือด
หลักการกินเพื่อหัวใจที่แข็งแรง ได้แก่ การเพิ่มผักและผลไม้หลากสีในทุกมื้อโดยเน้นผักสดและผลไม้ไม่หวานจัด เลือกไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก อะโวคาโด ซึ่งอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ลดปริมาณเกลือและน้ำตาล หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปและไขมันทรานส์ เปลี่ยนจากแป้งขัดขาวเป็นธัญพืชไม่ขัดสี งดหรือจำกัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เข้าถึงการรักษาโรคหัวใจง่ายขึ้น ด้วยสิทธิ์ประกันสังคมที่ รพ.วิมุต-เทพธารินทร์
โรงพยาบาลวิมุต–เทพธารินทร์ ให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจแบบองค์รวม โดยมีทีมแพทย์เฉพาะทาง ทีมนักกำหนดอาหารวิชาชีพ และผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ร่วมทำงานกับทีมสหสาขาวิชาชีพ เพื่อดูแลผู้ป่วยทั้งด้านร่างกายและการใช้ชีวิตประจำวัน
ล่าสุด โรงพยาบาลวิมุต–เทพธารินทร์ ยังได้ร่วมมือกับสำนักงานประกันสังคม เปิดให้ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการรักษาโรคหัวใจได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใน 7 รายการสำคัญ ได้แก่ การฉีดสีหลอดเลือดหัวใจ การขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูน การใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจชนิดถาวร การใช้เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ การศึกษาสรีรวิทยาไฟฟ้าหัวใจและการจี้ไฟฟ้าหัวใจ การใส่เครื่องช่วยการเต้นของหัวใจชนิดกระตุ้นหัวใจห้องล่างสองห้องพร้อมกัน และการจี้ไฟฟ้าหัวใจด้วยเทคโนโลยีที่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ไฟฟ้าในการสร้างภาพ 3 มิติ ซึ่งผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิ์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 ธันวาคม 2568
ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ Heart Coordinator โรงพยาบาลวิมุต–เทพธารินทร์ โทร. 095-241-4242 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือหากต้องการคำแนะนำด้านอาหารและการปรับพฤติกรรมเพื่อป้องกันโรคหัวใจ สามารถนัดหมายกับนักกำหนดอาหารและทีมสหสาขาวิชาชีพได้ที่ โทร. 02-348-7000
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon