มิติหุ้น – กรุงเทพฯ (12 มิถุนายน 2568) – โลกกำลังเปลี่ยนขั้ว: BRICS รวมพลังท้าชนดอลลาร์ สหรัฐฯ ตอบโต้ด้วยเกมภาษี ทองคำกลายเป็นหมากสำคัญ
ฮั่วเซ่งเฮง วิเคราะห์สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศล่าสุด พบว่าความตึงเครียดระหว่าง สหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศ BRICS เตรียมปะทุขึ้นอีกครั้ง จากการที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินหน้ามาตรการ ‘ภาษีศุลกากรตอบโต้’ (Reciprocal Tariffs) ต่อประเทศสมาชิก BRICS แม้จะมีการ ‘เลื่อน’ การใช้ภาษีบางส่วนออกไป 90 วัน แต่ยังนับเป็นสัญญาณชัดเจนว่ารัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมเดินเกมเชิงรุกในการควบคุมบทบาทดอลลาร์ในเวทีโลก
ขณะที่ฝั่ง BRICS กำลังมีความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ นั่นคือการประชุม 17th BRICS Summit ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-7 กรกฎาคม 2568 ที่ริโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล ในชื่อว่า ‘The Rio Reset’ ซึ่งเป้าหมายของกลุ่ม BRICS คือการลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ และเพิ่มบทบาทในเวทีโลก
สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในครึ่งหลังของปี 2568 นี้ อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ ‘เขย่าระบบเศรษฐกิจโลก’ หลังจากที่ใช้เงินสกุลดอลลาร์เป็นศูนย์กลางมานานหลายทศวรรษ
ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และสถานะภาษีศุลกากรตอบโต้จากสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับประเทศสมาชิก BRICS โดยตั้งกำแพงภาษีตั้งแต่ 10% จนถึง 45% เช่น ไทย (37%) อินเดีย (26%) อินโดนีเซีย (32%) และจีน (145%) อย่างไรก็ตาม แทนที่จะใช้ทันที ทรัมป์กลับเลือกที่จะ ‘เลื่อนการเก็บภาษี’ ออกไป 90 วัน (ครบกำหนดในวันที่ 9 กรกฎาคม 2568) ยกเว้นจีนที่เลื่อนไปถึงกลางเดือนสิงหาคม 2568
ฮั่วเซ่งเฮง วิเคราะห์ว่า นี่คือ ‘การหยั่งเชิง’ ก่อนการประชุมสุดยอด BRICS ของทรัมป์ เพื่อดูว่าประเทศใดที่จะยอมเจรจา หรือรวมตัวกันเพื่อต่อต้านอิทธิพลของสหรัฐฯ
BRICS เดินเกม ‘ลดบทบาทดอลลาร์’ ตั้งระบบการเงินใหม่
จากที่กล่าวมาข้างต้น ว่าเป้าหมายของกลุ่ม BRICS คือการลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ในการค้าระหว่างประเทศ หรือ De-dollarization โดยหลายประเทศในกลุ่ม BRICS เริ่มชำระค่าสินค้าด้วยสกุลเงินท้องถิ่น เช่น หยวน รูปี รูเบิล มากขึ้น รวมถึงการหารือเรื่องการสร้างสกุลเงินกลางระหว่างประเทศสมาชิก
การประชุม BRICS Summit ครั้งที่ 17 นี้ มีวาระการประชุมครอบคลุม 6 ประเด็นหลัก ได้แก่
- ความร่วมมือด้านสุขภาพระดับโลก
- การค้า การลงทุน และการเงิน
- การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- ธรรมาภิบาลด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI)
- โครงสร้างสันติภาพและความมั่นคงพหุภาคี
- การพัฒนาสถาบันของกลุ่ม BRICS
การประชุมครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ BRICS ในการปรับยุทธศาสตร์ทางการค้าและขยายบทบาทในเวทีโลก ท่ามกลางการแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ และเป็นหมากสำคัญที่อาจมีผลต่อท่าทีของทรัมป์ในการคงหรือยกเลิกมาตรการภาษี ตอกย้ำทิศทางความสัมพันธ์โลกตะวันตก–ตะวันออกในระยะต่อไป
ฮั่วเซ่งเฮง ประเมินว่า “สิ่งที่ต้องจับตาต่อจากนี้ก็คือ เกมกดดัน-เจรจา ซึ่งทั้งสองฝ่ายกำลังใช้ “เศรษฐกิจโลก” เป็นอาวุธ โดยทรัมป์ใช้ภาษีเป็นเครื่องกดดัน เพื่อให้แต่ละประเทศกลับมาเจรจาแบบทวิภาคี (แยกกัน) แทนที่จะเป็นการเจรจาแบบรวมกลุ่ม ขณะที่ BRICS พยายามรวมพลังผ่านการประชุม เพื่อจัดตั้งกลไกการเงินใหม่ และย้ำว่าโลกควรมี ‘ความสมดุลของอำนาจ’ ไม่ใช่ผูกกับสหรัฐฯ ฝ่ายเดียว”
ทั้งนี้ แม้บางประเทศอย่างอินเดียจะเสนอ ‘ข้อตกลงปลอดภาษี” กับสหรัฐฯ เพื่อรักษาสัมพันธ์ทางการค้า แต่สหรัฐฯ ยังไม่ตอบรับ ขณะเดียวกัน ทรัมป์ได้เดินสายปิดดีลทางเศรษฐกิจกับประเทศในตะวันออกกลาง เช่น ซาอุฯ ยูเออี กาตาร์ ซึ่งอยู่ในกลุ่ม BRICS สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ในการดึงพันธมิตรของฝ่ายตรงข้ามให้กลับมาเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีและแน่นแฟ้นกับสหรัฐฯ อีกครั้ง
ทองคำ รับบท ‘ตัวชี้วัดความไม่แน่นอน’
ฮั่วเซ่งเฮง มองว่าท่ามกลางความไม่แน่นอนทั้งด้านเศรษฐกิจ การเงิน และภูมิรัฐศาสตร์ ส่งผลให้ทองคำมีแนวโน้มกลับมาโดดเด่นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยในครึ่งหลังของปี 2568 โดยมีปัจจัยหลักดังนี้:
- หาก BRICS ประกาศนโยบายลดบทบาทดอลลาร์อย่างชัดเจน และสหรัฐฯ ตอบโต้ด้วยภาษีหรือมาตรการรุนแรง ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อเพื่อป้องกันความเสี่ยง
- นักลงทุนทั่วโลกอาจเพิ่มน้ำหนักการถือครองทองคำ เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย
- ในทางกลับกัน หาก BRICS ยังไม่สามารถตกลงร่วมกันหรือไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ราคาทองคำอาจพักฐานในระยะสั้น แต่ภาพรวมยังได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดทำงบประมาณปี 2569 ให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 30 ก.ย.นี้
“ขณะนี้ตลาดโลกกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญในเชิงโครงสร้าง ระบบการเงินระหว่างประเทศอาจเปลี่ยนทิศอย่างมีนัยสำคัญในระยะยาว ฮั่วเซ่งเฮงแนะนำให้ติดตามผลการประชุม BRICS อย่างใกล้ชิด โดยใช้กลยุทธ์กระจายความเสี่ยง และอาจเพิ่มสัดส่วนทองคำในพอร์ต เพื่อรองรับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง” ฮั่วเซ่งเฮง ระบุในตอนท้าย
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon