นายณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ Head of Wealth Advisory ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูงจากสงครามการค้าสหรัฐฯ ธนาคารทิสโก้ได้ประเมินทางเลือกการลงทุนออกเป็น 3 ทางเลือก ได้แก่ 1.ทางรอดเมื่อโลกแย่ เหมาะลงทุนในช่วงที่เศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย และอีก 2 ทางเลือกการลงทุนเมื่อเศรษฐกิจชะลอตัว คือ 1. กำไรไม่แคร์สงครามการค้า และ 2. MEGATRENDS โตดี…ไม่ต้องลุ้น
“Global bond ให้ผลตอบแทนโดดเด่น”
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบัน ธนาคารทิสโก้แนะนำให้ลูกค้าเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนใน “Global Bond” หรือกองทุนตราสารหนี้โลก ซึ่งเป็นหนึ่งสินทรัพย์การลงทุนที่อยู่ในแนวทาง “ทางรอดเมื่อโลกแย่” ซึ่งจากสถิติพบว่าหากเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) ตราสารหนี้โลกมีโอกาสสร้างผลตอบแทน 8% ในช่วง 12 เดือน ขณะที่ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนด (Yield-to-maturity) ของดัชนี Global bond อยู่ที่ราว 3.6% ต่อปี สูงกว่าตราสารหนี้ไทยที่อยู่ที่ 1.7% ต่อปี หรือสูงกว่า 1 เท่าตัวเลย
“การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้ายังมีความไม่แน่นอนสูง หลายประเทศยังไม่มีข้อตกลงการค้าที่ชัดเจน ขณะที่มาตรการระงับการขึ้นภาษีชั่วคราวจะสิ้นสุดในวันที่ 9 กรกฏาคมนี้ นอกจากนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจหลายประเทศเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว ประกอบกับอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ (Bond Yield) ในปัจจุบันได้ปรับเพิ่มขึ้นจนอยู่ในระดับที่น่าสนใจลงทุนรับอัตราผลตอบแทนที่อยู่ในระดับสูงไปพร้อมๆ กับรับผลตอบแทนจากส่วนต่างราคาหน้าตั๋ว” นายณัฐกฤติกล่าว
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon