โลกเสี่ยง 5 ด้าน! ลงทุนยุคนี้ต้องคิดให้ลึก

77

มิติหุ้น – ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษากลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร และประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ   และ นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ได้ร่วมบรรยายบนเวที Thai listed Companies Challenges & Opportunities ในงาน  CFO Annual Conference on Capital Markets ณ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ดร.ศุภวุฒิ มองว่า โลกกำลังเผชิญ “5 ความเสี่ยงหลัก” ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย:

  1. โครงสร้างประชากรสูงวัย

-ประเทศพัฒนาแล้วกำลังก้าวเข้าสู่ “สังคมสูงวัย” อย่างรวดเร็ว

-อัตราการเกิดต่ำลง ทำให้ “ฐานภาษี” หดตัว

-ขณะเดียวกัน “ภาระสวัสดิการ” เช่น ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ-บำนาญ เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อเสถียรภาพการคลังระยะยาว และเป็นแรงกดดันต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก

 

  1. หนี้สาธารณะของประเทศมหาอำนาจ

-ตัวเลขหนี้ของสหรัฐฯ เพิ่มจาก 85% ของ GDP ในปี 2010 เป็น มากกว่า 110% ในปี 2025

-มีแนวโน้ม “พิมพ์เงิน” เพื่อสร้างเงินเฟ้อ ลดภาระหนี้

-ร่างกฎหมาย Section 899 ที่อาจเปิดช่องให้เก็บภาษีจากนักลงทุนต่างชาติ หากประเทศต้นทางถูกมองว่า “เอาเปรียบ” ทางภาษี – เสี่ยงกระทบเม็ดเงินลงทุนทั่วโลก

 

  1. การเร่งตัวของเทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI

-AI กำลังกลายเป็น “หัวใจของเศรษฐกิจใหม่”

-มีบทบาทสำคัญในภาคการผลิต, การแพทย์, ความมั่นคง, การศึกษา เช่น

-AI วิเคราะห์ข้อมูลความมั่นคง (ตัวอย่าง: Palantir)

-AI ช่วยวิจัยยา

-AI Tutor เปลี่ยนรูปแบบการเรียนรู้

หากบริหารจัดการไม่ดี อาจส่งผลกระทบแรงงานและโครงสร้างเศรษฐกิจ แต่ถ้าใช้ให้ถูกทาง เทคโนโลยีอาจช่วยแก้ปัญหาใหญ่ เช่น ประชากรสูงวัย, สิ่งแวดล้อม, การจัดเก็บภาษี

 

  1. ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics)

-โลกเปลี่ยนทิศทางสู่ความ “อนุรักษ์นิยม” มากขึ้น

-หลายประเทศเน้น “อธิปไตย” ลดความร่วมมือข้ามพรมแดน เช่น สหรัฐฯ ถอนตัวจาก Paris Agreement, WHO

-ความขัดแย้งสหรัฐฯ-จีน ทวีความรุนแรง กระทบห่วงโซ่อุปทานโลก

-ไทยที่พึ่งพาทั้งสองประเทศ มีความเสี่ยงโดยตรงด้านเศรษฐกิจและการส่งออก

 

  1. ความไม่แน่นอนด้าน ESG และ Climate Change

-แม้ ESG เป็นกระแสหลัก แต่มาตรฐานยังไม่ชัดเจน

-ขาดการร่วมมือระดับโลก โดยเฉพาะจากผู้นำอย่าง สหรัฐฯ และจีน

-ปัญหา Climate Change เป็น “ของสาธารณะ” (Public Goods) ที่ทุกประเทศต้องร่วมมือ

-หากไม่มีการจัดการร่วมกันอย่างจริงจัง โลกจะไม่สามารถลดความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมได้

 

ด้านนายบรรยง เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยกำลังถดถอยเชิงโครงสร้าง ความเชื่อมั่นถดถอยหนัก นักลงทุนต่างชาติลดสัดส่วนถือหุ้นจาก 60–67% เหลือเพียง 35% สะท้อนแนวโน้ม “ขายถาวร” ไม่ใช่เพียงแค่พักฐาน

 ปัญหาหลัก คือ

-เศรษฐกิจไทยโตช้า ขาดแรงขับใหม่

-ความไม่แน่นอนด้านนโยบายและกฎเกณฑ์

-ขาดธรรมาภิบาล โปร่งใสในตลาดทุน

-มาตรการรัฐหลายอย่าง “สวนกลไกตลาด”

แนวทางแก้ปัญหา

เสนอแปรรูปรัฐวิสาหกิจ เช่น ปตท. เพื่อนำรายได้เข้าสู่รัฐ ลดหนี้สาธารณะโดยไม่กระทบงบประมาณ

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon