มิติหุ้น – ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษากลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร และประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ได้ร่วมบรรยายบนเวที Thai listed Companies Challenges & Opportunities ในงาน CFO Annual Conference on Capital Markets ณ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ดร.ศุภวุฒิ มองว่า โลกกำลังเผชิญ “5 ความเสี่ยงหลัก” ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย:
- โครงสร้างประชากรสูงวัย
-ประเทศพัฒนาแล้วกำลังก้าวเข้าสู่ “สังคมสูงวัย” อย่างรวดเร็ว
-อัตราการเกิดต่ำลง ทำให้ “ฐานภาษี” หดตัว
-ขณะเดียวกัน “ภาระสวัสดิการ” เช่น ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ-บำนาญ เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อเสถียรภาพการคลังระยะยาว และเป็นแรงกดดันต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
- หนี้สาธารณะของประเทศมหาอำนาจ
-ตัวเลขหนี้ของสหรัฐฯ เพิ่มจาก 85% ของ GDP ในปี 2010 เป็น มากกว่า 110% ในปี 2025
-มีแนวโน้ม “พิมพ์เงิน” เพื่อสร้างเงินเฟ้อ ลดภาระหนี้
-ร่างกฎหมาย Section 899 ที่อาจเปิดช่องให้เก็บภาษีจากนักลงทุนต่างชาติ หากประเทศต้นทางถูกมองว่า “เอาเปรียบ” ทางภาษี – เสี่ยงกระทบเม็ดเงินลงทุนทั่วโลก
- การเร่งตัวของเทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI
-AI กำลังกลายเป็น “หัวใจของเศรษฐกิจใหม่”
-มีบทบาทสำคัญในภาคการผลิต, การแพทย์, ความมั่นคง, การศึกษา เช่น
-AI วิเคราะห์ข้อมูลความมั่นคง (ตัวอย่าง: Palantir)
-AI ช่วยวิจัยยา
-AI Tutor เปลี่ยนรูปแบบการเรียนรู้
หากบริหารจัดการไม่ดี อาจส่งผลกระทบแรงงานและโครงสร้างเศรษฐกิจ แต่ถ้าใช้ให้ถูกทาง เทคโนโลยีอาจช่วยแก้ปัญหาใหญ่ เช่น ประชากรสูงวัย, สิ่งแวดล้อม, การจัดเก็บภาษี
- ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics)
-โลกเปลี่ยนทิศทางสู่ความ “อนุรักษ์นิยม” มากขึ้น
-หลายประเทศเน้น “อธิปไตย” ลดความร่วมมือข้ามพรมแดน เช่น สหรัฐฯ ถอนตัวจาก Paris Agreement, WHO
-ความขัดแย้งสหรัฐฯ-จีน ทวีความรุนแรง กระทบห่วงโซ่อุปทานโลก
-ไทยที่พึ่งพาทั้งสองประเทศ มีความเสี่ยงโดยตรงด้านเศรษฐกิจและการส่งออก
- ความไม่แน่นอนด้าน ESG และ Climate Change
-แม้ ESG เป็นกระแสหลัก แต่มาตรฐานยังไม่ชัดเจน
-ขาดการร่วมมือระดับโลก โดยเฉพาะจากผู้นำอย่าง สหรัฐฯ และจีน
-ปัญหา Climate Change เป็น “ของสาธารณะ” (Public Goods) ที่ทุกประเทศต้องร่วมมือ
-หากไม่มีการจัดการร่วมกันอย่างจริงจัง โลกจะไม่สามารถลดความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมได้
ด้านนายบรรยง เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยกำลังถดถอยเชิงโครงสร้าง ความเชื่อมั่นถดถอยหนัก นักลงทุนต่างชาติลดสัดส่วนถือหุ้นจาก 60–67% เหลือเพียง 35% สะท้อนแนวโน้ม “ขายถาวร” ไม่ใช่เพียงแค่พักฐาน
ปัญหาหลัก คือ
-เศรษฐกิจไทยโตช้า ขาดแรงขับใหม่
-ความไม่แน่นอนด้านนโยบายและกฎเกณฑ์
-ขาดธรรมาภิบาล โปร่งใสในตลาดทุน
-มาตรการรัฐหลายอย่าง “สวนกลไกตลาด”
แนวทางแก้ปัญหา
เสนอแปรรูปรัฐวิสาหกิจ เช่น ปตท. เพื่อนำรายได้เข้าสู่รัฐ ลดหนี้สาธารณะโดยไม่กระทบงบประมาณ
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon