มิติหุ้น – Investment Strategy
• สรุปภาพรวมตลาด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และ ทำสถิติรายไตรมาสที่ดีที่สุดในรอบกว่า 1 ปี โดยได้แรงสนับสนุนจากความหวังเกี่ยวกับการทำข้อตกลงทางการค้า และ ความหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,094.77 จุด เพิ่มขึ้น 275.50 จุด หรือ +0.63%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,204.95 จุด เพิ่มขึ้น 31.88 จุด หรือ +0.52% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,369.73 จุด เพิ่มขึ้น 96.27 จุด หรือ +0.47%
• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ อย่างไรก็ดีสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.24% ปิดที่ 67.61 ดอลลาร์/บาร์เรลหลังความเสี่ยงด้านอุปทานในตะวันออกกลางลดน้อยลง รวมถึง แรงกดดันจากความเป็นไปได้ที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และ ชาติพันธมิตร OPEC+ จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนส.ค.
ส่วนสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 20.10 ดอลลาร์ หรือ 0.61% ปิดที่ 3,307.70 ดอลลาร์/ออนซ์ จากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า
จับตาปลายสัปดาห์นี้ รายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ โดย ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 120,000 ตำแหน่งในเดือน มิ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 139,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ค. และ ตลาดคาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.3% ในเดือน มิ.ย.
• SET Index : เรามองกรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index ทรงตัวกรอบแคบ 1,090 จุด +/-10 จุด โดย วันนี้ จับตาผลการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเวลา 9.30 จากการที่ 36 สว.ร่วมกันลงชื่อยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาถอดถอนนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่ง จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับฮุน เซน
เราเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญน่าจะรับคำร้อง แต่ยังต้องรอดูว่าศาลฯ จะมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุด
ปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ และ คาดว่าศาล รัฐธรรมนูญน่าจะใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือนจึงมีคำวินิจฉัย หากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง เราเชื่อว่าตลาดจะตอบรับเชิงบวก และ มีโอกาสทะลุ 1,100 จุด
สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจไทย ข้อมูลเศรษฐกิจโดยรวมเดือนพฤษภาคม 2568 ค่อนข้างอ่อนแอทั้งการบริโภคลการลงทุนที่ทรงตัว % mom แต่ตัวเลขเดือนนี้ยังได้ประโยชน์จากการส่งออกที่พุ่งสูงขึ้นก่อนเส้นตายภาษี มองไปข้างหน้า ช่วงครึ่งหลังของปี 2568 เรามองว่าความเสี่ยงจะมากขึ้น
ภาพในประเทศ แรงกดดันทางการเมืองกำลังเพิ่มขึ้น ทั้งการที่นายกรัฐมนตรีต้องเผชิญกับคำร้องของสว. และ การประท้วงชุมนุมต่อต้านตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเราคิดว่าเพิ่งเริ่มต้น และ ภาพต่างประเทศ ภาษีศุลกากรแบบตอบโต้กำลังจะถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 9 กรกฎาคม 2568
• หุ้นแนะนำ
ERW:
เก็งกำไรประเด็น “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เปิดลงทะเบียนวันนี้ และ ถึงแม้ ERW จะมีปัจจัยลบจากสถิตินักท่องเที่ยวที่เติบโตอ่อนตัว แต่เราเชื่อการที่ RevPAR ของ ERW เผชิญกับแรงกดดันน้อยลงอาจช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
โรงแรมไทยยังมี RevPAR อ่อนตัวในเดือนพ.ค. 2025 แต่เราเชื่อว่า RevPAR น่าจะลดลง yoy มากที่สุดในเดือนเม.ย. และจะติดลบน้อยลงในเดือนพ.ค. และมิ.ย.
(Take profit : 2.20 / Stop loss : 2.08)
KTB:
เราเลือก KTB เป็นหุ้น Top pick ในกลุ่มธนาคารของเรา เนื่องจากธนาคารทั้งสองแห่งน่าจะมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงที่ 5.9-8.3% ต่อปีในปี 2025 รวมทั้งมี คุณภาพสินทรัพย์ดีและงบดุลแข็งแกร่ง
(Take profit : 21.90 / Stop loss : 21.00)
#CGSInternational
#CGSI
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
