มิติหุ้น – “บมจ.ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น” หรือ SINO พร้อมลงทุนขยายคลังสินค้าปลอดอากร (Free Zone) หลังใหม่ในพื้นที่นิคมฯ แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี หลังได้รับไฟเขียวจากบอร์ดบริษัทฯ เพิ่มพื้นที่อีกเกือบ 6,000 ตารางเมตร รวมเป็นกว่า 33,000 ตารางเมตร คาดพร้อมเปิดดำเนินงานภายในเดือนตุลาคมนี้ ปัจจุบันมีลูกค้าเดิมที่ต้องการเช่าพื้นที่แล้วประมาณ 40% และลูกค้าที่อยู่ระหว่างเจรจาอีก 8 ราย มั่นใจว่าจะมีผู้เช่าเต็มพื้นที่ภายในปี 2569
นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนขยายคลังสินค้าปลอดอากร (Free Zone) หลังใหม่ภายในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี หลังจากได้รับการอนุมัติแผนลงทุนดังกล่าวจากคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ เป็นที่เรียบร้อยเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อตอบสนองความต้องการเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าเดิมและรองรับการขยายฐานลูกค้าใหม่ในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการนำเข้า-ส่งออกที่ต้องการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
อาคารคลังสินค้าปลอดอากรหลังใหม่จะมีพื้นที่รวมเกือบ 6,000 ตารางเมตร คาดว่าจะพร้อมเปิดดำเนินการภายในเดือนตุลาคม 2568 และเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/2568 ปัจจุบันมีผู้เช่ารายเดิมในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เป็นฐานลูกค้าของบริษัทฯ มีความต้องการขยายการเช่าพื้นที่มายังคลังสินค้าปลอดอากรหลังใหม่แล้วประมาณ 40% ของพื้นที่รวม เพื่อจัดเก็บชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ ส่วนพื้นที่เช่าอีก 60% มั่นใจว่าจะมีผู้เช่าเต็มพื้นที่ภายในปี 2569 โดยปัจจุบันมี
ผู้แสดงความสนใจที่อยู่ระหว่างการเจรจาแล้ว 8 ราย ซึ่งมีทั้งฐานลูกค้าเดิมและผู้ประกอบการที่สอบถามเข้ามาก่อนหน้านี้
จากแผนงานขยายคลังสินค้าใหม่ครั้งนี้ ส่งผลให้บริษัทฯ มีพื้นที่คลังสินค้ารวมเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 33,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น คลังสินค้าทั่วไปเกือบ 10,000 ตารางเมตร และคลังสินค้าปลอดอากรอีกกว่า 23,000 ตารางเมตร รวมถึงจะเพิ่มศักยภาพการสร้างรายได้ของกลุ่มธุรกิจบริการสนับสนุนงานบริการโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจหลักของบริษัทฯ ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 5%
“การขยายคลังสินค้าหลังใหม่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ ในการเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการด้านโลจิสติกส์และการให้บริการเช่าพื้นที่จัดเก็บสินค้า ซึ่งปัจจุบันยังมีดีมานด์แข็งแกร่งและคาดว่าจะได้รับปัจจัยบวกจากการขยายฐานการผลิตมายังประเทศไทยเพื่อกระจายความเสี่ยง” นายนันท์มนัส กล่าว
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon