ผนึกกำลังรัฐ-เอกชน จับมือต่อยอด “สารหน่วงไฟจากขยะเปลือกหอย” เปิดตัวโครงการ “โรงเรียนปลอดภัย ห่างไกลอัคคีภัยด้วยนวัตกรรมจากขยะอาหาร”

11

 

มิติหุ้น – วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์เด็กปฐมวัยเมอร์ซี่ กทม. – โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ร่วมกับ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) บริษัท เบเยอร์ จำกัด และกรุงเทพมหานคร เปิดตัวโครงการ “โรงเรียนปลอดภัย ห่างไกลอัคคีภัยด้วยนวัตกรรมจากขยะอาหาร” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน ในการนำนวัตกรรมจากขยะอินทรีย์มาใช้ประโยชน์เพื่อยกระดับความปลอดภัยในศูนย์เด็กปฐมวัยเมอร์ซี่ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร

โครงการนี้ริเริ่มจากแนวคิดการลดขยะอินทรีย์ของโรงแรม โดยเฉพาะเปลือกหอยนางรมที่เหลือทิ้งจากห้องอาหารบุฟเฟ่ต์ โกจิ คิทเช่น + บาร์ ซึ่งมีปริมาณมากถึง 1 ตันต่อเดือน ด้วยระบบการจัดการและแยกขยะอย่างเป็นระบบ ทำให้สามารถส่งต่อวัสดุเหลือใช้ให้ทีมวิจัยนำไปพัฒนาต่อยอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย ดร. ชุติพันธ์ เลิศวชิรไพบูลย์ และทีมนักวิจัยวัสดุตอบสนองระดับนาโน (RNM) กลุ่มวิจัยวัสดุตอบสนองและเซ็นเซอร์ระดับนาโน (RMNS) ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) แปรรูปเปลือกหอยนางรมเป็นแคลเซียมคาร์บอเนตเพื่อใช้เป็นสารตั้งต้นสำหรับผลิตนาโนแคลเซียมฟอสเฟต ที่สามารถเตรียมให้อยู่ในรูปแบบของแข็งลักษณะเป็นผง และของเหลวได้ ตัวอย่างการใช้งานของนาโนแคลเซียมไฮโดรเจนฟอสเฟตสามารถทำให้กระจายตัวในน้ำสำหรับฉีดพ่นบนพื้นที่ต้องการให้มีคุณสมบัติหน่วงไฟ ซึ่งผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน UL94 V-0 และสามารถดับไฟได้เองภายใน 10 วินาที โดยไม่มีเปลวไฟหยด และได้รับความร่วมมือจาก บริษัท เบเยอร์ จำกัด ในการนำสารดังกล่าวไปวิเคราะห์และทดสอบเพื่อต่อยอดเป็น “สีหน่วงไฟ” ที่พัฒนาจากขยะอาหารเปลือกหอยนางรมสำหรับครัวเรือน เพื่อใช้ทาอาคารเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพิ่มมูลค่าจากขยะและใช้ในพื้นที่ที่มีกลุ่มเปราะบาง
คุณไซมอน เบลล์ ผู้บริหารโรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค กล่าวว่า “โครงการนี้สะท้อนให้เห็นถึงพลังของความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรมบริการ ภาควิชาการ ภาคธุรกิจ และชุมชน ที่สามารถเปลี่ยนขยะอินทรีย์ด้อยค่า ใช้นวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าและช่วยยกระดับความปลอดภัยในชีวิตจริงได้อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยจุดเริ่มต้นง่ายๆ อย่างการจัดการขยะประเภทต่างๆ อย่างเป็นระบบ แยกขยะอาหาร ไม่เทรวม เพื่อให้วัสดุที่มีคุณค่ามีที่ไปต่อผ่านฃการวิจัยและพัฒนาโดยนาโนเทค การจัดการขยะให้กลายเป็นทรัพยากรของโรงแรม และการพัฒนาต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์จริงโดยภาคเอกชนอย่างเบเยอร์ ทุกภาคส่วนต่างมีบทบาทสำคัญในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ไม่เพียงช่วยลดปัญหาขยะอาหาร แต่ยังสร้างคุณค่าทางสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน”

ดร. อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า “สวทช. เป็นขุมพลังหลักของประเทศในการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) ของรัฐ เอกชน และชุมชน เพื่อพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งของระบบนิเวศวิจัยและนวัตกรรมให้ตอบโจทย์ และปัญหาที่สำคัญของประเทศ นาโนเทคเองก็มุ่งมั่นใช้ประโยชน์นาโนเทคโนโลยีขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมและพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน ความร่วมมือกันในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัย เพิ่มมูลค่าให้กับขยะอินทรีย์อย่างเปลือกหอยร่วมกับภาคเอกชนที่มองเห็นโอกาสในการนำ วทน. ผสานกับจุดแข็งของแต่ละภาคส่วน สร้างนวัตกรรมที่ตอบความต้องการของชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม และประเทศอย่างยั่งยืน”
ดร.วรวัฒน์ ชัยยศบูรณะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสีเบเยอร์ กล่าวว่า “ตามปณิธานของเบเยอร์ เราไม่เคยหยุดเพียงแค่การให้สีสันที่สวยงามหรือความคงทน แต่เรามุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยหัวใจของนวัตกรรม เพื่อส่งมอบสุขภาวะที่ดีและการปกป้องที่มากกว่าสำหรับผู้อยู่อาศัยภายในอาคาร เราจึงเลือก BegerCool All-Plus Interior ซึ่งนอกจากจะช่วยลดอุณหภูมิและหน่วงไฟได้ในตัวแล้ว การร่วมมือในครั้งนี้ยังเป็นการเสริมเกราะป้องกันอีกขั้น ผ่านนวัตกรรมจากสารเติมแต่งที่ต่อยอดจาก วัสดุเหลือใช้ทางอาหาร (food waste) โดยโรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค และการพัฒนาร่วมกับนักวิจัยจาก นาโนเทค สวทช. โครงการนี้สะท้อนหัวใจของเบเยอร์อย่างชัดเจนว่า “สีที่ดี” ต้องไม่ใช่แค่เรื่องของพื้นผิว แต่ต้องเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า สร้างประโยชน์ที่ยั่งยืน และร่วมดูแลสังคมไปพร้อมกันครับ”

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon