มิติหุ้น – ตอบรับธุรกิจค้าปลีกภูมิภาคอาเซียนแนวโน้มเติบโต ภาครัฐ-เอกชน โดยความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและจีน แถลงข่าวเตรียมจัดงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจระดับนานาชาติ ASEAN SHOP 2025 – มหกรรมธุรกิจร้านค้าอาเซียน นำผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ผู้จำหน่ายสินค้าและบริการ รวมถึงนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อธุรกิจค้าปลีกกว่า 300 บริษัท จาก 20 ประเทศร่วมจัดแสดงบนพื้นที่ 10,000 ตร.ม. ณ อาคารแสดงสินค้า อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 2-4 กันยายน 2568 พร้อมกิจกรรมเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้ที่น่าสนใจ คาดมีผู้เข้าร่วมงานกว่าหมื่นคน สร้างมูลค่าซื้อขายรวม 100 ล้านบาท
นายผกายเนติ์ เล่งอี้ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวระหว่างแถลงข่าวจัดงาน ASEAN SHOP 2025 ว่า ธุรกิจค้าปลีกของไทยถือเป็นหนึ่งฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจประเทศ ทั้งในด้านการสร้างงาน การขับเคลื่อนการบริโภค และเป็นช่องทางหลักในการกระจายสินค้าไทยสู่ผู้บริโภค ทั้งในประเทศและต่างประเทศ การพัฒนาเทคโนโลยี ระบบอัตโนมัติ และมอบประสบการณ์ผู้ซื้อที่ทันสมัย จึงเป็นแนวทางสำคัญในการเสริมศักยภาพให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก
อีกทั้งจากข้อมูลตอบรับการเติบโตของธุรกิจค้าปลีกในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีประชากรราว 650 ล้านคน แซงหน้าสหภาพยุโรปขึ้นเป็นภูมิภาคที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากจีนและอินเดีย เศรษฐกิจของภูมิภาคนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีชนชั้นกลางและมีกำลังซื้อของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้ตลาดค้าปลีกขยายตัวอย่างรวดเร็ว และประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในอาเซียน รองจากอินโดนีเซียอันดับหนึ่ง ไทยมีตลาดค้าปลีกที่เติบโตเต็มที่และมีความหลากหลายทั้งตลาดแบบดั้งเดิมและศูนย์การค้าสมัยใหม่
งาน ASEAN SHOP 2025 จึงไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่แสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีค้าปลีกเท่านั้น แต่ยังเป็น “เวทีเชื่อมโยงความร่วมมือ” ระหว่างผู้ประกอบการไทย-ต่างประเทศ นักลงทุน และหน่วยงานสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างระบบนิเวศของธุรกิจค้าปลีกไทยให้แข็งแรงและยั่งยืน และกระทรวงพาณิชย์ พร้อมในการสนับสนุนภาคเอกชนและผู้ประกอบการทุกระดับ ให้สามารถนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และเครือข่ายทางการค้าที่เกิดขึ้นจากงานครั้งนี้ ไปต่อยอดสู่การพัฒนาในระดับภูมิภาค
นายหวัง เจ้าหยุน ประธานบริหาร บริษัท กวางตง แกรนเดอร์ เอ็กซิบิชั่น กรุ๊ป กล่าวถึงการจัดงาน ASEAN SHOP 2025 หรือ มหกรรมธุรกิจร้านค้าอาเซียน เป็นงานแสดงสินค้าที่เกิดจากการรวมตัวของสองงานสำคัญ ได้แก่ VEND ASEAN และ FNB ASEAN นำผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ผู้จำหน่ายสินค้าและบริการ รวมถึงนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อธุรกิจค้าปลีกกว่า 300 ราย จาก20 ประเทศ อาทิ ไทย จีน บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม เป็นต้น ร่วมจัดแสดงบนพื้นที่เดียวกันกว่า 10,000 ตร.ม. งานนี้ถือเป็นแพลตฟอร์มสำคัญสำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมค้าปลีกและบริการตนเองในภูมิภาคอาเซียน โดยมีกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 2-4 กันยายน 2568 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี
งาน ASEAN SHOP 2025 จัดขึ้นโดย บริษัท กวางตง แกรนเดอร์ เอ็กซิบิชั่น กรุ๊ป และ บริษัท คอมพาส เอ็กซิบิชั่น จำกัด ภายใต้ความร่วมมือและการสนับสนุนของภาครัฐ-เอกชน ระหว่างประเทศไทยและจีน อาทิ กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ สมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย สหพันธ์การค้าชาวไทย-จีน สมาคมธุรกิจอัจฉริยะแห่งสมาพันธ์พาณิชย์แห่งประเทศจีน สมาคมอุตสาหกรรมตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติแห่งเอเชียแปซิฟิก สมาคมโฆษณาเพื่อการพาณิชย์แห่งประเทศจีน เป็นต้น
งาน ASEAN SHOP 2025 พันธมิตรกับทุกภาคส่วนในการผลักดันระบบนิเวศของ Future Food ให้เติบโตควบคู่ไปกับ Retail Tech และผู้ประกอบการค้าปลีกไทย ถือเป็นเวทีสำคัญระดับภูมิภาค ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการค้าปลีก รวมถึงผู้ประกอบการ SME ไทย ได้แสดงศักยภาพ นวัตกรรม และเชื่อมต่อกับตลาดอาเซียนในมิติที่กว้างขึ้น สนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยได้เข้าถึงช่องทางการค้า เทคโนโลยี และเครือข่ายพันธมิตรใหม่ๆ ผ่านงานแสดงสินค้าเช่นนี้ คือหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของ SME ไทยในระยะยาว
นายเจคอป คง ผู้จัดการทั่วไปและผู้จัดการโครงการ บริษัท คอมพาส เอ็กซิบิชั่น จำกัด กล่าวเสริมถึงการจัดงาน ASEAN SHOP 2025 งานในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายสำคัญคือ การรวมสองอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ อุตสาหกรรมตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติและระบบบริการตนเอง และ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม มารวมกันภายใต้แพลตฟอร์มเดียว เพื่อสร้างเครือข่ายเชิงพาณิชย์แบบครบวงจรที่เชื่อมต่อห่วงโซ่อุตสาหกรรมทั้งหมด โดยออกแบบพื้นที่จัดแสดงสินค้าไว้ทั้งหมด 6 โซนหลัก ได้แก่ 1.)โซนเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติและระบบบริการตนเอง 2.)โซนอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม 3.)โซนระบบการชำระเงินและแคชเชียร์ 4.)โซนอุปกรณ์ตกแต่งร้านค้าและระบบจัดแสดงสินค้า 5.)โซนอุปกรณ์รักษาความสดและระบบทำความเย็น 6.)โซนร้านสะดวกซื้อแบรนด์ชั้นนำ
นอกจากนี้ ในงานยังมีการจัดเวทีสัมมนาระดับนานาชาติ ควบคู่กันเพื่อให้ความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แบ่งเป็น 3 เวทีหลัก ได้แก่ ASEAN Retail Leadership Summit , International Vending Industry Forum และ Global Operator Development Forum โดยจะเชิญผู้นำในอุตสาหกรรมค้าปลีก เทคโนโลยี และผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก มาร่วมแบ่งปันความรู้ และอภิปรายหัวข้อสำคัญ เช่น การออกแบบระบบค้าปลีกไร้พนักงาน กลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดท้องถิ่น การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ฯลฯ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างมีวิสัยทัศน์และยั่งยืน โดยคาดการณ์ว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 10,000 คน และสามารถสร้างมูลค่าการเจรจาซื้อขายในงานได้ราว 100 ล้านบาท
ดร.ดวงเด็ด ย้วยความดี ผู้อำนวยการ ฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (TCEB) กล่าวสนับสนุนการจัดงาน ASEAN SHOP 2025 โดย ทีเส็บ ในฐานะเป็นหน่วยงานภาครัฐภายใต้การกำกับของสำนักนายกรัฐมนตรี มีพันธกิจหลักเพื่อดึงงานแสดงสินค้านานาชาติให้มาจัดในประเทศไทย พร้อมทั้งร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐภาคเอกชน ในการสนับสนุนและพัฒนาการจัดงานให้ประสบผลสำเร็จอย่างยั่งยืน ด้วยการอำนวยความสะดวกแก่นักเดินทางต่างชาติที่จะเข้ามาร่วมงาน และการประชาสัมพันธ์ครอบคลุมไปถึงการส่งเสริมให้หน่วยงานภายในประเทศจัดงานและเข้าร่วมงานอย่างต่อเนื่อง
งานแสดงสินค้ายังคงเป็นเวทีสำคัญให้ผู้ซื้อ ผู้ขาย นักลงทุนมาพบปะกัน ก่อให้เกิดการเจรจาธุรกิจ การซื้อ การขายภายในงาน เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในพื้นที่เข้าถึงช่องทางการประชาสัมพันธ์สินค้า ผลิตภัณฑ์และบริการ ไปสู่ตลาดโลก เนื่องจากผู้ซื้อและผู้ขายมาจากทั่วโลก ไม่ได้มีเฉพาะจากในประเทศเท่านั้น ฉะนั้นงานแสดงสินค้าจึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ สำหรับธุรกิจค้าปลีกไทย การได้มีงานแสดงสินค้าในเวทีระดับนานาชาติอย่าง ASEAN SHOP 2025 ถือเป็นโอกาสในการแสดงนวัตกรรมสินค้า เทคโนโลยีร้านค้า และแนวคิดใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ขณะเดียวกันยังเปิดโอกาสให้แบรนด์ไทยได้ พบกับนักลงทุน คู่ค้า และพันธมิตรจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในเศรษฐกิจอาเซียน
นายกวิน นิทัศนจารุกุล รองนายกสมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ กล่าวเสริมปิดท้ายถึงแนวโน้มธุรกิจแฟรนไชส์ไทย ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ได้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่ “มีคุณภาพ” มากกว่าปริมาณ มีการพัฒนาแบรนด์อย่างเป็นระบบ ใส่ใจในมาตรฐาน และพร้อมขยายสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในอาเซียนที่มีความใกล้เคียงกันทั้งด้านพฤติกรรมผู้บริโภคและโครงสร้างการค้า แฟรนไชส์กลุ่มร้านสะดวกซื้อ อาหาร เครื่องดื่ม และบริการรายย่อย กลายเป็น “จุดเริ่มต้นของผู้ประกอบการรายใหม่” ในหลายประเทศ และสะท้อนโอกาสที่ไทยสามารถเป็น ผู้ส่งออกโมเดลธุรกิจไปยังตลาดเพื่อนบ้านได้
อีกทั้งตลาด B2B ในกลุ่มค้าปลีกอาเซียนมีแนวโน้มเติบโตอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV และอินโดนีเซีย ซึ่งมีความต้องการโมเดลธุรกิจที่สามารถ “นำไปใช้ได้ทันที” พร้อมโซลูชันเทคโนโลยี ระบบจัดการร้านค้า และช่องทางจัดจำหน่ายที่ครบวงจร แฟรนไชส์ไทยสามารถสร้างความได้เปรียบด้วยจุดแข็งเรื่องความยืดหยุ่น ต้นทุนการลงทุนที่เหมาะสม และการให้ความร่วมมือแบบพี่เลี้ยง ซึ่งเป็นรูปแบบที่ตอบโจทย์ตลาดเกิดใหม่อย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่างาน ASEAN SHOP จะกลายเป็น “แพลตฟอร์ม B2B แบบครบวงจร” ที่ไม่เพียงเชื่อมโยงผู้ประกอบการกับเทคโนโลยี แต่ยังเป็นโอกาสเชื่อมเครือข่ายเชิงกลยุทธ์ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะแฟรนไชส์ไทยที่ต้องการขยายสู่ตลาดอาเซียน
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon