SCG สะท้อนความมุ่งมั่นบนเส้นทาง Net Zero ผ่านเด็ก “ฮีโร่” ปลุกทุกคนเปลี่ยนจาก “รู้” สู่ลงมือทำ ร่วมกันแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม  

9

มิติหุ้น – แม้คนไทยจะตระหนักถึงภัยร้ายจากปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่เห็นได้ชัดว่าการลงมือทำจริงยังน้อย โจทย์ท้าทายในวันนี้คือ การกระตุ้นผู้คนให้เปลี่ยนพฤติกรรม บนเส้นทางปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) “เอสซีจี” ไม่เพียงขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมาย แต่ยังมุ่งมั่นเปลี่ยนความนิ่งเฉยในสังคมให้เป็น “ลงมือทำ” สนับสนุนให้ทุกคนเริ่มทำจากสิ่งใกล้ตัว เรื่องง่าย ๆ ที่ทำเป็นประจำ พร้อมสร้างทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมง่ายขึ้น เพื่อเปลี่ยน Passion สู่การสร้างผลกระทบได้จริง

เมื่อโลกกำลังเผชิญวิกฤตสิ่งแวดล้อม และ “Net Zero” ไม่ใช่แค่คำไกลตัวอีกต่อไป เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้สร้างปรากฎการณ์ “เด็กฮีโร่” ลุกขึ้นมาเป็นผู้นำ สะท้อนจากเรื่องราวของ “น้องแบงค์-ธนกร นันติ” เยาวชนจากโครงการ “ต้นกล้าชุมชน” โดยมูลนิธิเอสซีจี เกษตรกรรุ่นใหม่ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง เพื่อลดมลพิษ PM2.5 โดยพัฒนาโครงการ “ลดคาร์บอนจากการเผาวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ด้วยเตาเผาถ่านชีวภาพ” และเป็นต้นแบบของ Circular Economy ระดับชุมชน พร้อมส่งต่อองค์ความรู้ให้กับเยาวชนในพื้นที่

น้องแบงก์เล่าถึงเหตุผลที่ลุกขึ้นมาทำเรื่องสิ่งแวดล้อมและเน้นลดการเผาว่า ชาวบ้านและเด็ก ๆ ในภาคเหนือ เติบโตมากับการเผาที่สร้างมลพิษ ทำให้ทุกคนรวมถึงตัวเองมีปัญหาเรื่องการหายใจ มองว่าถ้าไม่มีใครจัดการปัญหาจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ จึงเริ่มลงมือทำจากสิ่งใกล้ตัว นำความรู้ที่เรียนมาประยุกต์สร้างเตาเผาถ่านชีวภาพ (Biochar) แบบดัดแปลงเอง เนื่องจากครอบครัวและชาวบ้านในชุมชนเป็นเกษตรกร ทุกปีจะเผาวัสดุเหลือทิ้งจากการตัดแต่งต้นไม้สร้างฝุ่นควัน ซึ่งเตาเผาถ่านชีวภาพมีต้นทุนต่ำ ทุกคนเข้าถึงได้ และการเผาจะได้ถ่านไบโอชาร์ที่ช่วยลดคาร์บอน รวมทั้งยังนำไปต่อยอดเป็นสารปรับปรุงดินหรือสบู่จากถ่านไบโอชาร์ได้ด้วย กลายเป็นทางออกเรื่องสิ่งแวดล้อม และเพิ่มรายได้ให้ชุมชน

ในขณะที่สองพี่น้องรักษ์โลกตัวแทนคนรุ่นใหม่ “น้องอิน-อริณชย์ ทองแตง” และ “น้องเอม-อริสา ทองแตง” ผู้ก่อตั้ง Below the Tides ฟื้นฟูระบบนิเวศทางน้ำในหลายรูปแบบอย่างจริงจัง สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ใหญ่ และเพื่อนรุ่นเดียวกันเห็นว่า “เราทำได้” มีจุดเริ่มต้นของการทำเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังมาจากความรักสัตว์

น้องอินและน้องเอม เล่าว่า ไม่ได้อยากช่วยโลก แค่อยากช่วยเต่า เพราะชอบสัตว์มาตั้งแต่เด็ก และรู้สึกสนิทกับธรรมชาติมานานแล้ว เมื่อรู้ว่าปัญหาโลกร้อน (Global Warming) และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ส่งผลกระทบกับระบบนิเวศทางทะเล อาจทำให้สัตว์บางชนิดเสี่ยงสูญพันธุ์ หากไม่ช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อม จึงรู้สึกว่าต้องลงมือทำบางอย่างเพื่อแก้ปัญหา โดยตั้งกลุ่มเล็ก ๆ ที่โฟกัสเรื่องสิ่งแวดล้อมทางน้ำ ทั้งแม่น้ำลำคลองและทะเล ก่อนที่จะขยายกลายเป็นประเด็น Climate Change

“อุณหภูมิของโลกที่เพิ่มขึ้นอันตรายกับสัตว์ทะเล เราเลยอยากสร้างผลกระทบที่ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ เพราะดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย หากสุดท้ายสัตว์ทะเลต้องสูญพันธุ์ไป อย่างน้อยก็คิดว่าเราทำเต็มที่แล้ว ซึ่งในอนาคตก็ขึ้นอยู่กับว่าวันนี้เราทำอะไร” น้องอิน กล่าว

ตอกย้ำด้วยคำพูดของน้องเอมว่า “บางคนคิดว่าโลกจะรอให้เราค่อยๆ เปลี่ยน คิดว่ายังมีเวลาแก้ไข แต่ไม่มีใครรู้ว่าโลกรอได้ถึงเมื่อไหร่ ปัญหาใหญ่ที่สุดคือการที่บางคนยังไม่ยอมรับว่ามี Climate Change ยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยังมีคนที่บอกว่าไม่ใช่เรื่องของเรา หากปล่อยให้เป็นแบบต่อไปโดยไม่ทำอะไร สิ่งที่น่ากลัวคือ ลูกหลานของเราอาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นโลกแบบที่เราเคยเห็นอีกแล้ว”

น้องแบงค์สรุปทิ้งท้ายว่า “ผมเป็นแค่เกษตรกรตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ไม่ได้คาดหวังจะว่าสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ สิ่งที่ทำได้คือเริ่มจากตัวเอง หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ส่งต่อไปเรื่อย ๆ เราอาจจะเปลี่ยนโลกทั้งใบไม่ได้ แต่บางทีการเปลี่ยนโลกอาจเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงที่ตัวเราก็ได้”

เพราะการร่วมมือกันคือพลังที่ยิ่งใหญ่ “เอสซีจี” เชื่อว่าทุกคนคือส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ ชุมชน หรือองค์กรต่าง ๆ สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ เพียงลงมือทำอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ซึ่งเอสซีจีได้สร้างความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงใช้การสื่อสารและเทคโนโลยี เพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon