Pi daily หุ้นโลกสดใสแต่หุ้นไทย Upside อาจถูกจำกัดด้วยความไม่ชัดเจนจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ

21

มิติหุ้น – Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 192 จุด (+0.4%) ได้แรงหนุนจากตลาดแรง งานที่สดใสรวมถึงผลประกอบการที่ดีกว่าคาด ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 2.2% นักลงทุนกังวลว่าภาษีกดดันอุปสงค์

วันพุธที่ผ่านมามหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือน มิ.ย. พบว่าปรับลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ต่ำสุดรอบ 28 เดือน สาเหตุเพราะว่าความไม่แน่นอนปัจจัยการเมืองทั้งคลิปเสียงหลุด กระทบกับความเชื่อมั่นการเมือง สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับนานาประเทศรวมถึงกำลังสร้างแรงกดดันต่อประเทศไทย นอกจากนี้ค่าครองชีพที่สูงขึ้นผสานกับรายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่ายเป็นอีกแรงกดดันต่อดัชนีความเชื่อมั่น ในขณะที่ช่วงเย็นของวันพุธอดีตนายกรัฐมนตรีก็ได้ออกมาแถลงในงานผ่าทางตันประเทศ ที่จัดโดย Nation ในส่วนของภาษีระหว่างไทยกับสหรัฐฯ อดีตนายกระบุว่าประเทศไทยไม่ควรยอมสหรัฐฯจนเกินไป พร้อมเชื่อว่าระยะเวลาที่เหลือไทยจะสามารถเจาการค้ากับสหรัฐฯได้ ด้านปัจจัยต่างประเทศเมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯได้รายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 2.27 แสนรายดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 2.36 แสนรายและลดลงจากสัปดาห์ก่อนที่ 2.32 แสนราย

นอกจากปัจจัยข้างต้นแล้วภาษีนำเข้าของสหรัฐฯพบว่าทรัมป์ได้ประกาศภาษีนำเข้าใหม่กับฟิลิปปินส์ที่อัตรา 20% เร่งขึ้นจากเดิมที่ 18% แต่ก็ยังนับว่าต่ำกว่าไทยที่ 36% โดยประเทศที่ถูกเก็บภาษีมากสุดได้แก่บราซิลที่ 50% คืนนี้ไม่มีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม โดยรอติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯสัปดาห์หน้า วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1100 – 1120 Upside ตลาดหุ้นไทยยังดูจำกัดจนกว่าจะทราบผลเจรจาการค้า ประกอบกับนักลงทุนจะเริ่มรอดูติดตามผลประกอบการ 2Q25 ที่จะเริ่มทยอยรายงานตั้งแต่สัปดาห์หน้า เริ่มที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์และตามมาด้วย Domestic Play ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนระยะกลางอาจเน้นสะสมหุ้นปันผลสูงธุรกิจมั่นคงเป็นผู้นำธุรกิจ อาทิ SCB TISCO BBL KBANK รวมไปถึงหุ้นใหญ่ที่น่าสนใจ CPN CPALL MINT

MTC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 48.00 บาท)
MTC เผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และผลบวกจากอัตราดอกเบี้ยลดลงอาจยังไม่เห็นผลที่ชัดเจนนักใน 1H25 แต่เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 2Q25 จะเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 1.6 พันล้านบาท (+11.7% YoY, +2.7% QoQ) เพราะรายได้ดอกเบี้ยสุทธิขยายตัวตามสินเชื่อ กอปรกับการควบคุมคุณภาพสินเชื่อ และการติดตามหนี้ที่ดีขึ้นทำให้คาดว่า NPL ratio ปรับลดลงเล็กน้อยที่ 2.65% นอกจากนี้ เรามองว่าแนวโน้มกำไรจะเพิ่มสูงขึ้นได้ต่อเนื่องใน 2H25 เราคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2025 จะเติบโตต่อเนื่อง 14%

MINT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 36.00 บาท)
2Q25 กำไรปกติจะเติบโตสูง QoQ และมีโอกาสเติบโต YoY หนุนจาก 1) แนวโน้มการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรม ด้วยยอดการจองล่วงหน้าตั้งแต่เดือนเมษายนอยู่ในระดับที่ดี โดยเฉพาะในโซนยุโรปที่กำลังเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว หนุน RevPar ปรับตัวสูงขึ้น 2) โรงแรมในประเทศไทยได้รับอานิสงค์จากช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำให้ทั้งอัตราการเข้าพัก (Occupancy) และ RevPar อยู่ในเกณฑ์ที่ดี และ 3) คาดรายได้ธุรกิจร้านอาหารจะฟื้นกลับมาทรงตัว YoY ด้วยยอดขายไอศกรีมมะม่วง เมนูฤดูกาลยอดนิยมที่เลื่อนเปิดการขายจาก 1Q25 มาใน 2Q25 เนื่องจากสภาพอากาศต้นปีที่หนาวยาวนานกว่าปีก่อน

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon