ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังตลาดกังวลมาตรการภาษีทรัมป์กดดันเศรษฐกิจโลก
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
(-) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับลดลงกว่า 2% หลังตลาดกังวลเรื่องผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมัน โดยล่าสุด ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากบราซิลเป็น 50% รวมถึงเพิ่มภาษีนำเข้าจากหลายประเทศ ได้แก่ ศรีลังกา แอลจีเรีย อิรัก และลิเบีย ที่อัตรา 30% บรูไนและมอลโดวา 25% และฟิลิปปินส์ 20% นอกจากนี้ ยังปรับเพิ่มภาษีนำเข้าทองแดงเป็น 50% โดยมาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค. 68
(-) ตลาดคาดโอเปกพลัสจะปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 550,000 บาร์เรลต่อวันในเดือน ก.ย. 68 ทั้งนี้ การปรับเพิ่มดังกล่าวจะส่งผลให้โอเปกพลัสสามารถบรรลุเป้าหมายการปรับเพิ่มกำลังการผลิตที่ 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน รวมถึงบรรลุแผนการปรับฐานการผลิตของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพิ่มขึ้น 3 แสนบาร์เรลต่อวันภายในเดือน ก.ย. 68 เร็วกว่ากำหนดเดิมราว 1 ปี โดยการประชุมเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับปริมาณการผลิตเดือน ก.ย. 68 จะมีขึ้นในวันที่ 3 ส.ค. 68
(-) สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 4 ก.ค. 68 ปรับเพิ่มขึ้น 7.07 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 426 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon