TRIS Rating จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 3 หมื่นล้านบาท “GULF” ที่ “AA-” แนวโน้ม “Stable”

14

มิติหุ้น – ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 3 หมื่นล้านบาทและมีอายุไม่เกิน 10 ปีของ บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “AA-” โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ขยายธุรกิจและ/หรือใช้ชำระหนี้ พร้อมกันนี้ ทริสเรทติ้งยังคงอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทที่ระดับ “AA-” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “AA-” พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ด้วย

อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะความเป็นผู้นำของบริษัทในธุรกิจผลิตไฟฟ้าภายในประเทศ รวมถึงการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีการกระจายตัวดี และความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงจากการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว นอกจากนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงรายได้จากเงินปันผลจำนวนมากที่บริษัทได้รับจากการลงทุนในหลายกิจการ โดยเฉพาะ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (ADVANC) รวมถึงความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศและภาระค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนตามแผนจำนวนมากอีกด้วย

ทริสเรทติ้งคาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะสอดคล้องกับประมาณการกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้ง โดยบริษัทน่าจะมี EBITDA ที่ประมาณ 5 หมื่นล้านบาทในปี 2568 ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งก็ยังคาดหวังด้วยว่าบริษัทจะบริหารจัดการระดับหนี้สินด้วยความระมัดระวังแม้จะมีเงินลงทุนตามแผนจำนวนมากก็ตาม ทั้งนี้ การที่บริษัทมีสินทรัพย์ลงทุนจำนวนมากน่าจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการจำหน่ายสินทรัพย์ที่มีอยู่เพื่อรองรับการลงทุนใหม่ได้ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถรักษาอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ให้อยู่ในระดับ 6-7 เท่าได้ในระยะ 3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้จากธนาคารและตลาดทุนภายในประเทศก็น่าจะช่วยสร้างความมั่นใจต่อความเพียงพอในด้านสภาพคล่องของบริษัทได้อีกด้วย

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าโรงไฟฟ้าที่ดำเนินงานแล้วของบริษัทจะยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีและสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงต่อไป นอกจากนี้ บริษัทจะสามารถพัฒนาและดำเนินโครงการใหม่ได้ตามแผนงานที่กำหนดไว้ ซึ่งจะทำให้ตัวชี้วัดเครดิตของบริษัทสอดคล้องกับประมาณการกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้ง

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

ทริสเรทติ้งอาจพิจารณาเพิ่มอันดับเครดิตหากบริษัทสามารถรักษาอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ให้ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำกว่า 5 เท่าได้อย่างต่อเนื่อง ในทางกลับกัน ทริสเรทติ้งอาจลดอันดับเครดิตลงหากบริษัทมีการลงทุนในเชิงรุกมากขึ้น หรือสินทรัพย์ลงทุนของบริษัทมีผลการดำเนินงานต่ำกว่าที่คาดหมายไว้เป็นอย่างมาก หรือโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาประสบปัญหาต้นทุนที่บานปลาย จนทำให้อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA เพิ่มขึ้นเกินกว่า 7 เท่าโดยไม่มีแนวโน้มที่จะลดลง

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
– เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 26 ธันวาคม 2567
– เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 15 กรกฎาคม 2565
– อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon