มิติหุ้น – NT ร่วมมือกรมศุลกากรและการท่าเรือแห่งประเทศไทย เปิดตัวบริการ e-D/O ผ่านแพลตฟอร์มกลาง THAI NSW สร้างมิติใหม่กระบวนการนำเข้าสินค้ายุคดิจิทัลแบบไร้กระดาษ หนุนผู้ประกอบการเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันทางการค้า
บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ผู้ให้บริการ THAI NSW (Thailand National Single Window) แพลตฟอร์มกลางการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียวของประเทศไทย เดินหน้านำเทคโนโลยีดิจิทัลพัฒนาการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนเอกสารอิเล็กทรอนิกส์อย่างต่อเนื่อง มุ่งสู่การเป็น One-Stop Service สำหรับผู้ประกอบการค้านำเข้าส่งออก ล่าสุด NT ได้พัฒนาระบบบริการใบสั่งปล่อยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-D/O (Electronic Delivery Order) ผ่านแพลตฟอร์มกลาง THAI NSW ลดขั้นตอนการใช้กระดาษ เพิ่มความรวดเร็ว โปร่งใสและสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ ยกระดับกระบวนการนำเข้าสินค้าสู่ระบบดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้ NT ได้ร่วมกับกรมศุลกากร การท่าเรือแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเสวนา“NSW e-D/O กับการยกระดับโลจิสติกส์ไทยสู่ Paperless Trade” เพื่อเปิดตัวบริการ e-D/O และแนะนำระบบบริการ e-D/O ผ่านแพลตฟอร์มกลาง NSW ที่ถูกออกแบบให้มีกระบวนการด้านเอกสารการนำเข้าสินค้าทางเรือที่ทันสมัยทัดเทียมกับมาตรฐานระดับโลก โดยมีผู้ประกอบการด้านการนำเข้าส่งออกทุกภาคส่วนเข้าร่วมงาน ทั้งกลุ่มผู้ประกอบการสายเรือ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ให้บริการโลจิสติกส์ ณ โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์พอยต์ ลุมพินี กรุงเทพฯ
คุณพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี กรมศุลกากร กล่าวว่า การพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลใบสั่งปล่อยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (e-D/O) แบบ B2B เป็นก้าวสำคัญของการพัฒนา THAI NSW ที่สนับสนุนให้ภาคธุรกิจมีส่วนร่วมในการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านแพลตฟอร์ม THAI NSW มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายตามแผนยุทธศาสตร์กรมศุลกากรที่มุ่งเน้นให้ผู้ประกอบการสามารถทำธุรกรรมการค้าที่สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยที่หน่วยงานภาครัฐสามารถตรวจสอบและตรวจปล่อยสินค้าได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งยังสะท้อนความสำเร็จจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของแพลตฟอร์มกลาง THAI NSW โดยที่ผ่านมาได้มีการพัฒนายกระดับการรองรับเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่องให้ข้อมูลและรูปแบบการเชื่อมต่อเป็นไปตามมาตรฐานสากลสำหรับการนำเข้า-ส่งออก นำผ่าน และโลจิสติกส์ที่ครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงเพิ่มศักยภาพขยายการเชื่อมโยงต่อไปยังต่างประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ ในโลก
คุณทอม เฉลิมกาญจนา ประธานสมาคมเจ้าของและตัวแทนเรือกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ระบบใบสั่งปล่อยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (e-D/O) ไม่ใช่เพียงนวัตกรรมที่นำมาใช้เปลี่ยนจากกระดาษให้เป็นดิจิทัลเท่านั้น แต่คือการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ส่งผลในการลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน โดยหวังความร่วมมือของทุกฝ่ายโดยเฉพาะภาครัฐในการผลักดัน e-D/O เป็นระบบที่สามารถปรับใช้ได้จริงเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการขนส่งทางเรือ นำไปสู่การยกระดับมาตรฐานการให้บริการของสายการเดินเรือ และเป็นส่วนสำคัญที่จะผลักดันประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาคได้
เรือโท ภัทธวุฒิ กนกวรรณากร ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) กล่าวว่า การพัฒนาระบบปล่อยสินค้าในท่าเรือสู่ความเป็นดิจิทัลด้วยระบบ e-D/O เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนายกระดับท่าเรือของไทยสู่ “Smart Port” โดย e-D/O ไม่เพียงแค่การปรับเปลี่ยนทางเทคโนโลยี แต่คือการปฏิรูปกระบวนการทำงานครั้งสำคัญที่จะแก้ Pain Point ให้เกิดประโยชน์ใน 4 มิติหลัก 1. ลดต้นทุนโลจิสติกส์ของผู้ประกอบการ โดยการลดขั้นตอน ลดการใช้กระดาษ และลดระยะเวลาที่รถบรรทุกต้องรอหน้าท่า 2. ลด Waste ด้านเอกสาร การเดินทางและการรอคอย 3. เสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย และ 4. เสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของประเทศ คาดว่าจะได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนที่จะปรับตัวและนำเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์โดยรวมซึ่งผู้ประกอบการไทยจะสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างทัดเทียมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดร.วงกต วิจักขณ์สังสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานดิจิทัลและโซลูชัน NT กล่าวถึงการพัฒนาระบบบริการใบสั่งปล่อยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ e-D/O ดังกล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาระบบสำหรับการประสานงานระหว่างผู้ประกอบการขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือด้วยระบบ Sea PCS (Port Community System) เพื่อเป้าหมายอำนวยความสะดวกการนำเข้า-ส่งออก และโลจิสติกส์ และการยกระดับโลจิสติกส์ไทยสู่ Paperless Trade สอดคล้องกับแผนพัฒนา THAI NSW ตามนโยบายกรมศุลกากรที่มุ่งเป้าผลักดันระบบโลจิสติกส์ยุคใหม่เต็มรูปแบบเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศอย่างมั่นคงและยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้อย่างยั่งยืน โดยความร่วมมือของทุกภาคส่วนจะเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญ รวมถึงสามารถใช้เป็นต้นแบบของความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชนในการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ตอบโจทย์ทั้งการอำนวยความสะดวก และการกำกับดูแลอย่างมีประสิทธิภาพ
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon