“อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์” ทุ่มงบกว่า 120 ลบ. ทรานส์ฟอร์มธุรกิจครั้งใหญ่ สู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบด้วย RISE with SAP S/4HANA Cloud for Retail รายแรกธุรกิจค้าปลีกไทย!

14

มิติหุ้น – บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (ILM) ประกาศทรานส์ฟอร์เมชันวางรากฐานเทคโนโลยีครั้งใหญ่ ทุ่มงบลงทุนกว่า 120 ล้านบาท เดินหน้ายกระดับระบบดิจิทัลเต็มรูปแบบด้วย RISE with SAP S/4HANA Cloud for Retail รายแรกธุรกิจค้าปลีกไทย พัฒนาโซลูชันที่ดีที่สุด เปลี่ยนผ่านธุรกิจค้าปลีกมองเห็นข้อมูลแบบเรียลไทม์ บริหารจัดการคลังสินค้าและคำสั่งซื้อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เข้าใจพฤติกรรมลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง ขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาดที่แม่นยำ ตอกย้ำความเป็นเบอร์ 1 living lifestyle mall ที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อพร้อมรับมือทุกความท้าทายและก้าวสู่ผู้นำแห่งอนาคต

          นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM ผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ภายในบ้าน และของแต่งบ้านครบวงจร เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้ทุกธุรกิจต้องเผชิญกับความท้าทายและต้องปรับตัวให้ทัน เพื่อที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง ล่าสุด อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ได้ประสบความสำเร็จดิจิทัลทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่รายแรกธุรกิจค้าปลีกไทยกับการอัปเกรดระบบ RISE with SAP S/4HANA Cloud for Retail ก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างครบวงจร เพื่อครองความเป็น No. 1 ของธุรกิจค้าปลีกสินค้า living lifestyle mall ที่ใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดและทันสมัย เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการบริหารธุรกิจ พร้อมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาด

ทั้งนี้ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ทุ่มงบกว่า 120 ล้านบาท ลงทุนยกระดับระบบ RISE with SAP S/4HANA Cloud for Retail เต็มรูปแบบ เพื่อเป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่ง สำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในโลกธุรกิจค้าปลีกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนธุรกิจค้าปลีกด้วยเทคโนโลยีเสมือน “สมองกลอัจฉริยะ” หัวใจสำคัญของ S/4 HANA คือการทำงานบนฐานข้อมูลแบบ In-Memory ทำให้สามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลได้แบบเรียลไทม์ ทั้งยังผสานความเชื่อมโยงภายในองค์กรได้ครบทุกส่วนงาน โดยเป็นการพัฒนาร่วมกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก ได้แก่ บริษัท เน็กซัส ซิสเท็ม รีซอร์สเซส จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางระบบ SAP, SAP ผู้นำด้านซอฟต์แวร์ ERP และ AWS ผู้ให้บริการคลาวด์แพลตฟอร์มที่ได้รับความเชื่อถือระดับโลก  โดยโซลูชันใหม่นี้จะเข้ามาเสริมศักยภาพในทุกมิติของธุรกิจ ดังนี้

  • การดำเนินงานหน้าร้าน (Store Operations) เพิ่มความเร็วของระบบ ณ จุดขาย (POS) และเชื่อมโยงกับสต็อกสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์ ทำให้การจัดการงานขายและพนักงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
  • การบริหารจัดการสินค้าคงคลัง (Supply Chain) บริหารจัดการสต็อกสินค้าได้อย่างแม่นยำ ลดต้นทุนการจัดเก็บ พร้อมติดตามสถานะการจัดส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การเงินและบัญชี (Finance and Accounting) สามารถออกรายงานทางการเงินได้แบบเรียลไทม์ ลดความซับซ้อนของกระบวนการ และเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย
  • การส่งเสริมการตลาด (Marketing) ช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้อย่างเรียลไทม์ สามารถนำข้อมูลไปพัฒนาด้านสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

“ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาคธุรกิจและองค์กรต่างๆ ต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาทุกภาคส่วน เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจ การทรานส์ฟอร์มของ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ผ่านการพัฒนาระบบ RISE with SAP S/4HANA Cloud for Retail จะเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเพิ่ม Productivity สร้างโอกาสทางธุรกิจในหลายมิติ โดยสามารถรองรับ Big Data ซึ่งเป็นแกนหลักสำคัญ เพื่อต่อยอดสู่การบริหารจัดการด้านต่างๆ อาทิ CRM, ด้านการตลาดเพื่อสร้างความพึงพอใจของลูกค้า, ช่วยวิเคราะห์เทรนด์และพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการได้อย่างตรงจุด ทั้งนี้บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยทางข้อมูลของลูกค้าอย่างสูงสุด  ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวมาช่วยซัปพอร์ตด้านความปลอดภัยข้อมูลของลูกค้าได้อีกทาง ทั้งนี้ยังรองรับการทำงานร่วมกับ AI ที่จะเข้ามาซัปพอร์ตการทำงานในอนาคตอีกด้วย ให้สามารถขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ภายในบ้าน ของแต่งบ้าน รวมถึงบริการเรื่องบ้านอย่างแท้จริง สำหรับระบบดังกล่าวใช้พร้อมกัน อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา” นางสาวกฤษชนก กล่าว

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon