มิติหุ้น – นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า จากสภาพเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ธนาคารตระหนักถึงผลกระทบต่อสถานการณ์ของลูกหนี้ที่มีความน่าเป็นห่วงเพิ่มขึ้น และปักธงให้ปี 2568 เป็นปีแห่งการช่วยเหลือลูกหนี้ ผ่านโปรแกรมและโครงการต่าง ๆ ซึ่งได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ซึ่งเกิดจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน (Non-Banks) บางแห่ง
โดยตั้งใจช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและเอสเอ็มอีกลุ่มเปราะบางที่กำลังเผชิญกับภาระหนี้อย่างหนักแต่ยังอยากจะลุกขึ้นมาสู้ ให้สามารถกลับมาตั้งหลักได้อีกครั้ง ซึ่งทีทีบีเล็งเห็นความสำคัญของโครงการนี้ว่ามีประโยชน์ต่อลูกหนี้เป็นอย่างมาก จึงผลักดันให้ลูกหนี้ของธนาคารเข้าร่วมโครงการให้ได้มากที่สุด เพื่อปลดหนี้ได้ไวขึ้น และแก้ไขปัญหาหนี้สะสมเรื้อรังอย่างยั่งยืน
เฟส1 นำร่องสวยงาม
ทั้งนี้จากโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 1 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2567 ทีทีบีสามารถให้ความช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเทียบกับช่วงก่อนมีโครงการ ไม่ว่าจะเป็นลูกหนี้สินเชื่อบ้านที่สามารถช่วยได้เพิ่มขึ้นเป็น 2,300 บัญชีต่อเดือน จากเดิม 800 บัญชีต่อเดือน และลูกหนี้สินเชื่อรถยนต์ เพิ่มขึ้นเป็น 12,000 บัญชีต่อเดือน จากเดิมช่วยเหลืออยู่ประมาณ 8,000 บัญชีต่อเดือน และในช่วงครึ่งปีแรกนี้ได้ช่วยเหลือลูกหนี้ทั้งรายย่อยและเอสเอ็มอีเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 54,000 บัญชี หรือคิดเป็นยอดสินเชื่อประมาณ 31,000 ล้านบาท
“โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ถือเป็นหนึ่งในโครงการที่มีประสิทธิผลในอันดับต้น ๆ ในการใช้มาตรการการแก้ปัญหาได้อย่างถูกจุดสำหรับกลุ่มลูกหนี้ที่มีภาระหนี้สินหนัก ซึ่งการช่วยเหลือของทีทีบี เราไม่ได้ดูแค่จำนวนลูกค้า แต่ได้ลงไปติดตามดูผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นว่าช่วยลูกค้าได้จริง สะท้อนจากลูกหนี้กลับมาจ่ายเงินตามปกติได้มากขึ้นจากเดิม 10 – 20% จำนวนลูกค้าสินเชื่อบ้านถูกยึดทรัพย์ในแต่ละเดือนลดลงไป 50% ส่วนลูกค้าสินเชื่อรถยนต์ที่ถูกยึดรถก็ลดลงไปเกือบ 25% ส่งผลให้ธนาคารสามารถบริหารจัดการลูกหนี้ค้างจ่ายได้ดีขึ้นด้วย” นายปิติ กล่าว
พุ่งเป้าขยายฐานการช่วยเหลือ
สำหรับโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้นำปัญหาที่ได้เรียนรู้จากเฟสแรก มาปรับปรุงมาตรการเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถช่วยเหลือกลุ่มลูกหนี้ที่เปราะบางได้มากขึ้น และขยายกลุ่มเป้าหมายสำหรับลูกหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน เช่น หนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคล ช่วยแบ่งเบาภาระหนี้ เพิ่มสภาพคล่องให้ดีขึ้นรองรับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยในเฟส 2 ทีทีบีคาดการณ์ว่าจะช่วยลูกหนี้ได้เพิ่มอีก 20,000 – 30,000 บัญชี
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon