TRIS Rating ประกาศเครดิตพินิจ “Positive” อันดับเครดิตองค์กร “BWG”

54

มิติหุ้น – ทริสเรทติ้งประกาศ “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “Positive” หรือ “บวก” ให้แก่อันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) ซึ่งอยู่ที่ระดับ “BB+” การดำเนินการในครั้งนี้สะท้อนมุมมองของทริสเรทติ้งว่า สถานะความเสี่ยงด้านการเงินของบริษัทมีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ภายหลังจากที่บริษัทจำหน่ายเงินลงทุนทั้งหมดในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ (Waste-to-Energy หรือ WTE) และโรงงานผลิตเชื้อเพลิงจากขยะคุณภาพสูง (Solid Recovered Fuel หรือ SRF) ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาออกไป ทริสเรทติ้งเชื่อว่าการถอนตัวจากโครงการดังกล่าวได้ขจัดภาระการลงทุนขนาดใหญ่ ตลอดจนความเสี่ยงด้านการก่อสร้างและการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นปัจจัยที่เคยกดดันอันดับเครดิตของบริษัทมาก่อนหน้านี้

การประกาศเครดิตพินิจในครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังจากที่บริษัท และ บริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) (ETC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้ประกาศต่อสาธารณชนเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 ว่ากลุ่มบริษัทได้ดำเนินการจำหน่ายเงินลงทุนทั้งหมดในสามบริษัท ได้แก่ บริษัท เซอร์คูล่าร์ แคมป์ จำกัด (CC) บริษัท เก็ท กรีน พาวเวอร์ จำกัด (GGP) และ บริษัท ซันเทค อินโนเวชั่น พาวเวอร์ จำกัด (SIP) ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งสำหรับการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานขยะแห่งใหม่และโรงงานผลิต SRF โดยกลุ่มบริษัทได้ขายหุ้นทั้งหมดในสามบริษัทดังกล่าวให้แก่ บริษัท กัลฟ์ เวสท์ ทู เอ็นเนอร์จี โฮลดิ้งส์ จำกัด ด้วยมูลค่ารวมประมาณ 1.1 พันล้านบาท โดยธุรกรรมดังกล่าวได้เสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 ซึ่งมีการโอนหุ้นและชำระเงินเรียบร้อยแล้วในวันเดียวกัน

ทริสเรทติ้งมองว่า การที่บริษัทถอนตัวจากโครงการดังกล่าวสะท้อนถึงการปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินไปในทิศทางที่ระมัดระวังมากขึ้น อีกทั้งยังมองว่าการจำหน่ายเงินลงทุนในครั้งนี้ช่วยให้บริษัทพ้นจากภาระการลงทุนขนาดใหญ่โดยสิ้นเชิง และช่วยป้องกันไม่ให้ระดับหนี้สินของบริษัทสูงเกินไป โดยก่อนหน้านี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าการใช้เงินลงทุนจำนวนมากของบริษัทอาจส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA เพิ่มขึ้นเป็น 12-13 เท่า และอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนเพิ่มขึ้นเป็น 66% ภายในปี 2569 อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทริสเรทติ้งคาดว่าสถานะความเสี่ยงด้านการเงินของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยบริษัทมีแนวโน้มจะนำเงินบางส่วนจากการขายเงินลงทุนไปใช้ชำระคืนหุ้นกู้ที่มีอยู่ก่อนครบกำหนด ทั้งนี้ เครดิตพินิจสะท้อนถึงความเป็นไปได้ของการปรับเพิ่มอันดับเครดิตหากบริษัทยังคงยึดกลยุทธ์การเติบโตอย่างระมัดระวังและรักษาระดับหนี้สินทางการเงินให้อยู่ในระดับที่ต่ำได้

แม้ว่าการทำธุรกรรมครั้งนี้จะส่งผลให้ขนาดธุรกิจและโอกาสในการกระจายธุรกิจของบริษัทลดลง แต่ทริสเรทติ้งก็ประเมินว่าการดำเนินงานในปัจจุบันของกลุ่มบริษัทและสถานะความเสี่ยงด้านธุรกิจไม่ได้รับผลกระทบที่มีนัยสำคัญ โดยระดับหนี้สินที่ลดลงจะช่วยชดเชยการสูญเสียโอกาสในการเติบโตและการกระจายธุรกิจได้ นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2568 ของธุรกิจบริหารจัดการของเสียและโรงไฟฟ้าที่มีอยู่เดิมยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

ทริสเรทติ้งจะยกเลิกเครดิตพินิจหลังจากได้ประเมินความสามารถในการสร้างรายได้ของบริษัท จากสินทรัพย์ที่ยังเหลืออยู่ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันอย่างครบถ้วน รวมถึงติดตามความคืบหน้าที่ชัดเจนในการนำเงินที่ได้จากการขายเงินลงทุนไปใช้ลดภาระหนี้สิน และประเมินโครงสร้างเงินทุนในอนาคตของบริษัทโดยคำนึงถึงกลยุทธ์การเติบโตและแผนการจ่ายเงินปันผลของบริษัทด้วย

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
– เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 15 กรกฎาคม 2565
– อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon