มิติหุ้น – ทริสเรทติ้งประกาศ “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “Positive” หรือ “บวก” ให้แก่อันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งอยู่ที่ระดับ “BB+” ตามการประกาศ “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “Positive” หรือ “บวก” ให้แก่อันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) (BWG) ที่อยู่ที่ระดับ “BB+” เช่นกัน ทั้งนี้ บริษัทมีสถานะเป็น “บริษัทย่อยหลัก” ของ BWG นอกจากนี้ “เครดิตพินิจ” นี้ยังสะท้อนมุมมองของทริสเรทติ้งว่าสถานะความเสี่ยงด้านการเงินของบริษัทมีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากที่บริษัทได้ขายเงินลงทุนทั้งหมดในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ (Waste-to-Energy หรือ WTE) ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาออกไป ทริสเรทติ้งเชื่อว่า การถอนตัวจากโครงการดังกล่าวได้ขจัดภาระการลงทุนขนาดใหญ่ ตลอดจนความเสี่ยงด้านการก่อสร้างและการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นปัจจัยที่เคยกดดันอันดับเครดิตของบริษัทมาก่อนหน้านี้
การประกาศเครดิตพินิจในครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังจากที่บริษัท และ BWG ได้ประกาศต่อสาธารณชนเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 ว่ากลุ่ม BWG ได้ดำเนินการจำหน่ายเงินลงทุนทั้งหมดในสามบริษัท ได้แก่ บริษัท เซอร์คูล่าร์ แคมป์ จำกัด (CC) บริษัท เก็ท กรีน พาวเวอร์ จำกัด (GGP) และบริษัท ซันเทค อินโนเวชั่น พาวเวอร์ จำกัด (SIP) ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งสำหรับการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานขยะและโรงงานผลิตเชื้อเพลิงจากขยะคุณภาพสูง (Solid Recovered Fuel หรือ SRF) ทั้งนี้ บริษัท ได้ขายหุ้นที่ถืออยู่ใน GGP และ SIP ให้แก่ บริษัท กัลฟ์ เวสท์ ทู เอ็นเนอร์จี โฮลดิ้งส์ จำกัด ด้วยมูลค่ารวมประมาณ 850 ล้านบาท โดยธุรกรรมดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 ซึ่งมีการโอนหุ้นและชำระเงินเรียบร้อยแล้วในวันเดียวกัน
การจำหน่ายเงินลงทุนดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทพ้นจากทั้งภาระการลงทุนขนาดใหญ่และความเสี่ยงจากการมีระดับหนี้สินที่สูงเกินไป โดยก่อนหน้านี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าการลงทุนขนาดใหญ่ของบริษัทอาจส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA พุ่งสูงถึง 30 เท่าภายในปี 2569 อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทริสเรทติ้งคาดว่าสถานะความเสี่ยงด้านการเงินของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยบริษัทมีแนวโน้มจะนำเงินบางส่วนจากการขายเงินลงทุนมาชำระคืนหุ้นกู้ที่มีอยู่ก่อนครบกำหนด ทริสเรทติ้งมองว่าการที่บริษัทถอนตัวจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะแห่งใหม่ สะท้อนถึงนโยบายทางการเงินที่มีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น เครดิตพินิจในครั้งนี้บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ในการปรับเพิ่มอันดับเครดิต โดยทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะดำเนินงานด้วยระดับหนี้สินที่อยู่ในระดับต่ำหากยังดำเนินกลยุทธ์การเติบโตอย่างระมัดระวังต่อไป
แม้ว่าธุรกรรมครั้งนี้จะส่งผลให้แนวโน้มขนาดธุรกิจและการกระจายธุรกิจของบริษัทลดลง แต่ทริสเรทติ้งประเมินว่าการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบันและสถานะความเสี่ยงด้านธุรกิจโดยรวมของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบที่มีนัยสำคัญ โดยระดับหนี้สินที่ลดลงจะช่วยชดเชยการสูญเสียโอกาสในการเติบโตและการกระจายธุรกิจได้ นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานขยะทั้งสามแห่งของบริษัทในไตรมาสแรกของปี 2568 ก็ยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ทริสเรทติ้งจะยกเลิกเครดิตพินิจหลังจากได้ประเมินสถานะเครดิตของกลุ่ม BWG อย่างรอบด้านอีกครั้ง ซึ่งรวมถึงบริษัทในฐานะ “บริษัทย่อยหลัก” ด้วย โดยจะพิจารณาความสามารถในการสร้างรายได้จากสินทรัพย์ที่ยังเหลืออยู่ ความคืบหน้าที่ชัดเจนในการนำเงินที่ได้จากการขายเงินลงทุนไปใช้ลดภาระหนี้สิน และความชัดเจนเกี่ยวกับโครงสร้างเงินทุนของกลุ่ม โดยคำนึงถึงกลยุทธ์การเติบโตและแผนการจ่ายเงินปันผลของกลุ่มบริษัทด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทมีสถานะเป็นบริษัทย่อยหลัก ดังนั้น อันดับเครดิตของบริษัทจะเปลี่ยนแปลงไปตามอันดับเครดิตของ BWG
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
– เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ, 7 กันยายน 2565
– เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 15 กรกฎาคม 2565
– อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon