บล.เอเซีย พลัส สรุปบทวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุนหุ้นต่างประเทศรายวัน

12

 

มิติหุ้น – MARKET HIGHLIGHT

– ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงปิดผสมผสานในวันอังคาร โดยดัชนี S&P500 แกว่งตัวในกรอบแคบท่ามกลางบรรยากาศเชิงบวกจากการประกาศของ Trump ต่อการบรรลุข้อตกลงการค้ากับฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย เช่นเดียวกับญี่ปุ่นในช่วงเวลาปิดตลาด

– ประธานาธิบดี Trump ระบุว่า “ได้เซ็นข้อตกลงการค้าที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์” กับญี่ปุ่น ซึ่งกำหนดภาษีนำเข้า 15% สำหรับสินค้าญี่ปุ่น จากเดิมที่ขู่ว่าจะเก็บ 25%

– ขณะเดียวกัน Trump ยังประกาศว่า สหรัฐฯ และฟิลิปปินส์ได้บรรลุข้อตกลงภาษีใหม่ โดยกำหนดอัตราภาษี 19% สำหรับสินค้าส่งออกจากฟิลิปปินส์ไปยังสหรัฐฯ ซึ่งลดลงเล็กน้อยจากอัตราเดิม 20% ที่ขู่จะประกาศในเดือนก่อน และจากอัตรา 17% ที่กำหนดไว้ในเดือนเมษายน

– นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังได้บรรลุข้อตกลงกับการค้าฉบับใหม่กับอินโดนีเซีย โดยอินโดนีเซียตกลงเปิดตลาด (Open Market) ให้แก่สินค้าอุตสาหกรรม เทคโนโลยี และสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ โดยลดกำแพงภาษีลง 99% ของรายการสินค้า ในขณะที่ทางฝั่งสหรัฐฯ จะปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าอินโดนีเซียจากระดับที่เตรียมไว้อยู่ที่ 32% เหลือ 19% ในสินค้านำเข้าทั้งหมด

– Jerome Powell ประธาน Fed กล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี โดยไม่ได้กล่าวถึงนโยบายการเงินของ Fed เนื่องจาก Fed ได้เข้าสู่ช่วง Blackout Period ด้าน Trump กล่าวถึง Powell ว่า “Powell จะพ้นตำแหน่งอีกเพียง 8 เดือน” ซึ่งเป็นไปตามการครบวาระในตำแหน่ง สะท้อนบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากขึ้น หลังการกดดันให้ Powell ลาออกจากตำแหน่งก่อนหน้านี้

– สหรัฐฯ รายงานตัวเลขออกมาผสมผสาน อาทิ Philadelphia Fed Non-Manufacturing Activity ในเดือน ก.ค. อยู่ที่ -10.3 (vs. เดือนก่อนที่ -25) ขณะที่ Richmond Fed Manufacturing Index ที่ -20 (vs. เดือนก่อนที่ -8)

– รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ของสหรัฐฯ: MBA Mortgage Applications และ Existing Home Sales เดือน มิ.ย.

– ติดตามรายงานผลประกอบการของหุ้นที่จะประกาศในวันนี้ อาทิ Alphabet, Tesla, T-Mobile, IBM, ServiceNow และ AT&T

– ข่าวหุ้นอัปเดต: Coca-Cola, General Motors, หุ้นกลุ่มป้องกันประเทศ, หุ้นกลุ่มพลังงานในตลาดฮ่องกง, Meitu, BYD

STOCK HIGHLIGHT

– Coca-Cola (KO US) รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ที่แข็งแกร่งกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับขึ้นราคาสินค้าและความต้องการที่ยังคงแข็งแกร่งในกลุ่มเครื่องดื่มแคลอรีต่ำ ขณะเดียวกันบริษัทยังประกาศแผนเปิดตัวเครื่องดื่มรุ่นใหม่ที่ใช้น้ำตาลอ้อยเป็นส่วนประกอบหลักในตลาดสหรัฐฯ ช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ ฝ่ายกลยุทธ์ฯ ยังคงแนะนำลงทุนในหุ้น Coca-Cola (KO US แนวรับ 68.5/65.5 แนวต้าน 71.8/73.8, KO80 TB แนวรับ 2.22/2.14 แนวต้าน 2.36/2.48) เนื่องจากลักษณะของหุ้นที่มีความเป็น Defensive ช่วยลดความผันผวนของพอร์ตในช่วงที่ตลาดเผชิญความไม่แน่นอนสูง อีกทั้งผลประกอบการไตรมาสล่าสุดออกมาดีกว่าคาด และบริษัทมีแนวโน้มกำไรทั้งปีอยู่ในระดับบนของช่วงคาดการณ์เดิม

– RTX (RTX US), Northrop Grumman (NOC US), Lockheed Martin (LMT US) รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ยังสะท้อนถึงการเติบโตของความต้องการด้านอาวุธและบริการซ่อมบำรุง ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลก แม้บางส่วนของต้นทุนและห่วงโซ่อุปทานจะยังเป็นปัจจัยที่ต้องบริหารจัดการ แต่โดยรวมภาคธุรกิจยังสามารถปรับตัวได้ดีและเดินหน้ารองรับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายกลยุทธ์ฯ ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Aerospace & Defense โดยมองว่าแม้ภาพรวมจะเผชิญความท้าทายจากต้นทุนและประเด็นด้านภาษีในบางบริษัท แต่ยังมีแรงหนุนสำคัญจากความต้องการด้านการป้องกันประเทศที่แข็งแกร่งทั่วโลกท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐและการเพิ่มงบประมาณกลาโหมในหลายประเทศ จากปัจจัยดังกล่าว

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon