GULF เผย Roadshow หุ้นกู้นักลงทุนสถาบันคึกคัก ตอกย้ำความแข็งแกร่งจากธุรกิจที่หลากหลาย หนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่นักลงทุนสถาบัน-นักลงทุนรายใหญ่-ประชาชนทั่วไป วันที่ 30 ก.ย.และ 1-2 ต.ค. 68

35

มิติหุ้น – บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เผยว่ากระแสตอบรับหลังจัด Roadshow เพื่อนำเสนอข้อมูลหุ้นกู้ให้แก่นักลงทุนสถาบันและสหกรณ์ออมทรัพย์ ได้รับความสนใจอย่างมาก นักลงทุนเชื่อมั่นในพื้นฐานทางธุรกิจของบริษัทฯ ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นภายหลังการควบรวมกับ INTUCH ส่งผลให้ GULF มีธุรกิจที่มีความหลากหลาย ครอบคลุมธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ได้เเก่ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ ธุรกิจโทรคมนาคมและดาวเทียม และธุรกิจดิจิทัล ซึ่งเป็นธุรกิจที่สอดรับกับเมกะเทรนด์และตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของโลกในอนาคต โดยอันดับเครดิตของหุ้นกู้และองค์กรอยู่ที่ระดับ “AA-” แนวโน้ม “Stable” คาดเสนอขายผ่าน 10 สถาบันการเงิน วันที่ 30 กันยายน และ 1 – 2 ตุลาคม 2568

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า จากที่บริษัทฯ ได้จัด Roadshow เพื่อนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับภาพรวมธุรกิจ และผลประกอบการของบริษัทฯ รวมถึงข้อมูลหุ้นกู้ชุดใหม่ที่จะออกเสนอขายเป็นครั้งแรกภายใต้บริษัทใหม่หลังการควบรวมกิจการกับ INTUCH ให้กับนักลงทุนสถาบันและสหกรณ์ออมทรัพย์ นั้นได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในการเข้าร่วมรับฟังข้อมูล

“ภายหลังการควบรวมกับ INTUCH นอกจากจะเป็นการสร้างศักยภาพร่วมกันระหว่างธุรกิจพลังงานและธุรกิจดิจิทัลแล้ว ยังเพิ่มความแข็งแกร่งในด้านฐานะทางการเงินและกระแสเงินสดที่มั่นคงมากขึ้น อีกทั้งยังขยายฐาน Asset, Equity และ EBITDA ให้แข็งแกร่งขึ้น ส่งผลให้ leverage ratio ต่ำลง ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการขยายธุรกิจของบริษัทฯ ในอนาคตด้วย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินกล่าว

หุ้นกู้ที่ GULF เสนอขายในครั้งนี้ เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 4 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้อายุ 3 ปี เสนอขายผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ที่มิใช่บุคคลธรรมดา และหุ้นกู้อายุ 5 ปี อายุ 7 ปี และอายุ 10 ปี เสนอขายประชาชนเป็นการทั่วไป โดยหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ที่ระดับ “AA-” แนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่”

ทั้งนี้ GULF ดำเนินธุรกิจในลักษณะ Holding Company  ประกอบด้วย ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ ธุรกิจโทรคมนาคมและดาวเทียม และธุรกิจดิจิทัล

ในส่วนของธุรกิจพลังงาน GULF เป็นหนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าภาคเอกชนชั้นนำของประเทศ ที่ดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติและจากพลังงานหมุนเวียน รวมไปถึงธุรกิจก๊าซ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักที่มีความสำคัญต่อการผลิตไฟฟ้า ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้แก่ประเทศไทย

ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ GULF มีโครงการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public-Private Partnership: PPP) หลายโครงการ โดยมุ่งเน้นส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ผ่านการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ อาทิ โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 โครงการมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน – นครราชสีมา (M6) และสายบางใหญ่ – กาญจนบุรี (M81) ในส่วนการดำเนินงานและการบำรุงรักษา  (Operation & Maintenance : O&M) และโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1)

ธุรกิจโทรคมนาคมและดาวเทียม GULF ถือหุ้น 40.4% ในบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (ADVANC) ซึ่งรู้จักกันดีภายใต้แบรนด์ AIS ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยี และยังถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมกว่า 40% ในบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) (THCOM) ผู้นำในการให้บริการด้านโทรคมนาคมผ่านดาวเทียมของประเทศไทย

ธุรกิจดิจิทัล GULF ร่วมกับ Singtel และ ADVANC ลงทุนในธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Center) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาศูนย์ข้อมูลในประเทศไทย  สำหรับธุรกิจ Cloud นั้น ปัจจุบัน GULF  ร่วมกับ AIS พัฒนาธุรกิจการให้บริการทั้ง public cloud และ private cloud โดยร่วมกับพันธมิตรระดับโลกอย่าง Oracle และ Google  โดย Oracle Alloy เป็นระบบ public cloud  ในขณะที่ Google Distributed Cloud air-gapped เป็นระบบคลาวด์ที่มีความปลอดภัยสูง ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นทางภาครัฐ เอกชน และกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม นอกจากนี้ GULF ยังให้บริการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล โดยร่วมมือกับ Binance ลงทุนใน GULF Binance เพื่อให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งสอดคล้องกับกระแส Blockchain Technology ในปัจจุบัน

ทั้งนี้ GULF มุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน พร้อมที่จะขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมที่ไม่มีข้อจำกัด ด้วยการขยายการลงทุนไม่เพียงแค่ในประเทศไทย แต่ยังสามารถก้าวไปได้ไกลในต่างประเทศ โดยความแข็งแกร่งของภาคธุรกิจไทยจะเป็นแรงสนับสนุนสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ เพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจสู่ระดับสากล

การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของ GULF ได้สะท้อนผ่านผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปี 2568 (ข้อมูลทางการเงินเสมือน) โดยบริษัทฯ มีรายได้รวม 32,344 ล้านบาท โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน (core profit) 6,506 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.91% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2567 ซึ่งมีกำไรจากการดำเนินงานที่ 4,932 ล้านบาท

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon