มิติหุ้น – Investment Strategy
• สรุปภาพรวมตลาด ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลดลงหลังจากบริษัทรายใหญ่หลายแห่งซึ่งรวมถึงยูไนเต็ดเฮลธ์ (UnitedHealth) เปิดเผยผลประกอบการออกมาต่ำคาด ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และ รอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,632.99 จุด ลดลง 204.57 จุด หรือ -0.46%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,370.86 จุด ลดลง 18.91 จุด หรือ -0.30% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,098.29 จุด ลดลง 80.29 จุด หรือ -0.38%
สำหรับตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่นๆ ปรับตัวลดลงเช่นกัน โดย ตลาดหุ้นเดนมาร์กร่วงลงมากที่สุดในรอบปีนี้ เนื่องจากหุ้น Novo Nordisk ร่วงลง หลังบริษัทผู้ผลิตยาลดน้ำหนักรายนี้ได้ประกาศเตือนเรื่องผลกำไร
• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 2.47 ดอลลาร์ หรือ 3.53% ปิดที่ 72.51 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้ปัจจัยบวกจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ขู่ว่าจะใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อกดดันให้รัสเซียเร่งยุติสงครามในยูเครน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า สถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้ารายใหญ่จะคลี่คลายลง
ในขณะที่สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 14 ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ 3,324.00 ดอลลาร์/ออนซ์ จับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันนี้
• SET Index : เราคาดกรอบ SET Index วันนี้ ณ ระดับ 1,215-1,250 จุด สำหรับปัจจัยในประเทศ จับตารายงานผลประกอบการ 2Q25 ของกลุ่ม Real Sector และ สำหรับปัจจัยต่างประเทศ ติดตามประเด็นไทย-กัมพูชา (รอผลประชุม GBC วันที่ 4 ส.ค.) / เส้นตายของภาษีไทย-สหรัฐฯ (เราคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 20-30%) และ การประชุม FOMC
หุ้นแนะนำ
SCGP: SCGP รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2568 ที่ 1,009 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.2% จากไตรมาสก่อน โดยได้รับแรงหนุนจาก EBITDA ของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ที่ดีขึ้น
EBITDA ของ Fajar ซึ่งเป็นธุรกิจในอินโดนีเซียกลับมาเป็นบวกในไตรมาส 2 ปี 2568 จากราคาขายในประเทศที่เพิ่มขึ้น และ เราปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ขาย” เป็น “ถือ”
(Take profit : 19.50 / Stop loss : 18.90)
CPN: จำนวนผู้เข้าใช้บริการของ CPN เพิ่มขึ้น 1-2% จากปีก่อน และยอดขายของผู้เช่าเพิ่มขึ้น 2-3% จากปีก่อน ในไตรมาส 2 ปี 2568 ใกล้เคียงกับไตรมาส 1 ปี 2568
กำไรสุทธิหลักไตรมาส 2 ปี 2568 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 0.2% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 4.4% จากปีก่อน มาอยู่ที่ 3.85 พันล้านบาท
(Take profit : 52.50 / Stop loss : 51.25)
#CGSInternational
#CGSI
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon