finbiz by ttb แนะภาคธุรกิจเตรียมรับโอกาสจากมาตรการอนุรักษ์พลังงาน ลดต้นทุนระยะยาว พร้อมสิทธิลดหย่อนภาษี

9

มิติหุ้น – ภาคธุรกิจเตรียมรับโอกาส เมื่อคนไทยได้รับข่าวดีล่าสุด จากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ไฟเขียวมาตรการ “โซลาร์รูฟท็อป” สำหรับบ้านพักอาศัย รอเพียงประกาศในราชกิจจานุเบกษาอย่างเป็นทางการเท่านั้น หากติดตั้งแล้วสามารถช่วยลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้สูงสุดถึง 200,000 บาท ไม่เพียงเป็นข่าวดีของภาคประชาชน แต่ finbiz by จะพาไปดูว่า ภาคธุรกิจก็สามารถเตรียมความพร้อม เพื่อรับโอกาสจากมาตรการอนุรักษ์พลังงานนี้ เพื่อสร้างความได้เปรียบ

มาตรการนี้ตั้งเป้าให้คนไทยหันมาติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้าน (Solar Rooftop) แบบเชื่อมต่อสายส่ง (On-grid) ไม่เกิน 10 กิโลวัตต์พีค (KWp) พร้อมใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ตามค่าใช้จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 200,000 บาท รวม VAT ต่อราย

โดยรัฐบาลคาดการณ์ว่า หากมีภาคประชาชนเข้าร่วมถึง 90,000 ครัวเรือน จะสามารถช่วยประเทศลดการใช้ไฟฟ้ารวมได้กว่า 585 ล้านหน่วยต่อปี ลดการนำเข้าก๊าซ LNG ได้กว่า 2,100 ล้านบาท และช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้มากถึง 2.64 ล้านตันต่อปี

มาตรการอนุรักษ์พลังงาน : ภาคธุรกิจนำไปลดหย่อนภาษีได้  

แม้มาตรการนี้เริ่มจาก “ภาคประชาชน” แต่สัญญาณชัดว่า “พลังงานสะอาด” กำลังเป็นเมกะเทรนด์ใหญ่ของประเทศ เพราะ ครม. ยังไฟเขียวมาตรการสนับสนุนการอนุรักษ์พลังงานของภาคธุรกิจควบคู่กันไปด้วย เพื่อผลักดันให้ธุรกิจมีการเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ลงทุนซื้อเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ประหยัดพลังงานที่มีฉลากประสิทธิภาพสูง หรือฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพพลังงานระดับ 5 ดาว จากกระทรวงพลังงาน จะสามารถนำค่าใช้จ่ายไปหักลดหย่อนภาษีได้ถึง 1.5 เท่าของรายจ่ายจริง นี่จึงไม่ใช่แค่การลดต้นทุนระยะสั้น แต่คือโอกาสที่ภาคธุรกิจจะเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคใหม่ ที่เน้นการใช้พลังงานสะอาด ประหยัด และสร้างความยั่งยืน

ธุรกิจต้องคิดให้ไกลกว่าการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป โดยมองหาสินเชื่อเพื่อธุรกิจสีเขียว (Green Loan)

การลงทุนในพลังงานสะอาด ไม่ใช่แค่เรื่อง CSR หรือภาพลักษณ์เท่านั้น แต่คือ “กลยุทธ์ทางการเงิน” ที่ชาญฉลาด โดยเฉพาะตอนนี้ที่สถาบันการเงินหลายแห่ง มี “สินเชื่อเพื่อธุรกิจสีเขียว” หรือ Green Loan เพื่อสนับสนุนโครงการการลงทุนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่โครงการพลังงานทดแทน ระบบประหยัดไฟฟ้า การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการปรับโครงสร้างองค์กรให้ตอบโจทย์การลดคาร์บอนได้อย่างยั่งยืน และอื่น ๆ อีกมากมาย

จุดเด่นของสินเชื่อเพื่อธุรกิจสีเขียว (Green Loan)

  • ประหยัดต้นทุนด้วยดอกเบี้ยอัตราพิเศษ
  • เข้าถึงเงินทุนสำหรับโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  • เสริมภาพลักษณ์องค์กรให้สอดคล้องกับเทรนด์ESG
  • สอดรับมาตรการภาษีที่รัฐสนับสนุน

โอกาสของพลังงานสะอาด : ธุรกิจที่เริ่มก่อน… ได้เปรียบก่อน

พลังงานสะอาดไม่ใช่เรื่องของอนาคตอีกต่อไป แต่มาอยู่ตรงหน้าเราแล้ว ทั้งในแง่ของ “สิทธิประโยชน์” และ “ความจำเป็น” ที่จะช่วยประหยัดต้นทุน และสร้างการปรับตัวให้ทันโลกธุรกิจยุคใหม่ และยิ่งมีข่าวดีของภาคประชาชนไทยอย่างมาตรการ “โซลาร์รูฟท็อป” รวมไปถึงภาคธุรกิจที่ทำธุรกิจด้านโซลาร์รูฟท็อป และธุรกิจอื่น ๆ ในซัพพลายเชนยิ่งถือเป็นโอกาสโดยตรง

และจากมาตรการนี้ เมื่อภาคประชาชนร่วมกับภาคธุรกิจ คาดว่าจะช่วยประเทศลดต้นทุนด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมในภาพรวมได้มหาศาล ได้แก่ ลดการใช้ไฟฟ้า 30,268 ล้านหน่วยต่อปี ลดการนำเข้า LNG 110,188 ล้านบาทต่อปี ลดการปล่อยคาร์บอน 15.34 ล้านตัน CO₂ ต่อปี และกระตุ้นเศรษฐกิจรวม 254,063 ล้านบาท

และสำหรับธุรกิจประเภทอื่น ๆ สถาบันทางการเงินพร้อมให้การสนับสนุนธุรกิจที่มีโครงการที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่าง ทีทีบีเอง มีผลิตภัณฑ์และบริการสินเชื่อเพื่อธุรกิจสีเขียว ทีทีบี เอสเอ็มอี (ttb sme green loan) ที่เข้าใจผู้ประกอบการธุรกิจ และครอบคลุมการลงทุนโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมถึง หมวดหมู่ ตั้งแต่พลังงานหมุนเวียน การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการน้ำ และน้ำเสียอย่างยั่งยืน การป้องกันมลพิษและการจัดการของเสีย การขนส่งที่ใช้พลังงานสะอาด อาคารสีเขียว การจัดการแหล่งทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน มาพร้อมกับสิทธิพิเศษที่ตรงใจ เข้าถึงได้ให้ได้มากกว่า พร้อมตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่ที่รักษ์โลก และสิ่งแวดล้อม เพื่อต่อยอดให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon