มิติหุ้น – Investment Strategy
• สรุปภาพรวมตลาด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันอังคาร (5 ส.ค.) จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังจากบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งซึ่งรวมถึง ยัม แบรนด์ส (Yum! Brands) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเคเอฟซี (KFC) รายงานผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 2/2568 เนื่องจากมาตรการภาษีนำเข้าในอัตราสูงได้ส่งผลให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลง
ในขณะเดียวกัน ตลาดได้รับแรงกดดันจากรายงานดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.1 ในเดือนก.ค. จากระดับ 50.8 ในเดือนมิ.ย. และ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 51.5 โดยธุรกิจต่างๆ ระบุว่ามาตรการภาษีการค้ากำลังผลักดันให้ต้นทุนสูงขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,111.74 จุด ลดลง 61.90 จุด หรือ -0.14%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,299.19 จุด ลดลง 30.75 จุด หรือ -0.49% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,916.55 จุด ลดลง 137.03 จุด หรือ -0.65%
• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.12 ดอลลาร์ หรือ 1.63% ปิดที่ 67.64 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดยังคงถุกกดดันจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติเพิ่มกำลังการผลิต รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อ่อนแอลงทั่วโลก
ในขณะที่ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8.3 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ 3,434.70 ดอลลาร์/ออนซ์
• SET Index : เราคาดกรอบ SET Index วันนี้ ณ ระดับ 1,230-1,250 จุด โดยเรามองว่า SET Index ในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวในกรอบ โดยได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในขณะที่ยังไม่มีปัจจัยบวกภายในประเทศผลักดันดัชนีในระยะสั้น รวมถึงแนวต้านใหญ่ ณ ระดับ 1,250 จุด
วันนี้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อไทย เดือน ก.ค. 2568 และ สัปดาห์นี้ติดตาม การรายงานผลประกอบการ 2Q25 ของกลุ่ม Real Sector, สถานการณ์การเมืองไทย, การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE), ดัชนี PMI ภาคการบริการเดือน ก.ค.ของสหรัฐฯ
หุ้นแนะนำ
KBANK:
ธนาคารปรับเพิ่มนโยบายการจ่ายเงินปันผลเป็น 50-60% ของกำไรสุทธิ ธนาคารมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลน่าสนใจที่ 5.5-7.1% ต่อปีในปี FY25-27
โดยหาก KBANK สามารถทำให้อัตราการสำรองหนี้สูญกลับมาอยู่ในระดับปกติที่ 140-160bp ในปี 2025 เราเชื่อว่าจะทำให้เรา/Bloomberg consensus ปรับเพิ่มประมาณการกำไรและ ROE
(Take profit : 165.50 / Stop loss : 163.00)
MEGA:
เราเชื่อว่าบริษัทจะมีกำไรเติบโตสูงขึ้นใน 2H25 เนื่องจากธุรกิจผลิตภัณฑ์แบรนด์น่าจะมีรายได้เติบโตต่อเนื่องและรายได้จากเมียนมาจะเริ่มทรงตัว
โดยเรามองว่าปัจจัยบวกที่จะช่วยหนุนราคาหุ้นจะมาจากยอดขายผลิตภัณฑ์แบรนด์ที่เติบโตสม่ำเสมอ ซึ่งน่าจะ outperform สินค้าฟุ่มเฟือยอื่นๆ และรายได้จากเมียนมาที่ทรงตัว
(Take profit : 31.25 / Stop loss : 30.00)
#CGSInternational
#CGSI
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon