MARKET HIGHLIGHT
– ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันอังคาร ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีของสหรัฐฯ หลังล่าสุดประธานาธิบดี Trump ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการเริ่มเก็บภาษีนำเข้ายา รวมถึงการรายงานตัวเลข ISM ภาคบริการที่ออกมาอ่อนแอกว่าตลาดคาด
– ประธานาธิบดี Trump ให้สัมภาษณ์ว่า สหรัฐฯ เตรียมเริ่มเก็บภาษีนำเข้ายาจากต่างประเทศ โดยจะเริ่มจาก “อัตราเล็กน้อย” ก่อนปรับขึ้นเป็น 150% ภายใน 18 เดือน และอาจแตะ 250% ในระยะถัดไป เพื่อผลักดันให้การผลิตยากลับมาอยู่ในประเทศ
– รัฐบาลอินเดียกำลังเร่งหาทางรับมือผลกระทบทางเศรษฐกิจจากคำขู่ของประธานาธิบดี Trump ที่จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากอินเดีย “มากกว่า 25% ภายใน 24 ชั่วโมง”
– นอกจากนี้ Trump เผยว่าได้จำกัดรายชื่อผู้ที่อาจถูกเสนอชื่อเป็นประธาน Fed คนใหม่เหลือเพียง 4 คน โดยแม้ไม่เปิดเผยรายชื่อทั้งหมด แต่ระบุว่า Kevin Warsh และ Kevin Hassett ต่างก็เป็นผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับตำแหน่งนี้
– สหรัฐฯ รายงานดัชนี ISM Services เดือน ก.ค. ที่ 50.1 จุด ชะลอตัวลงอย่างชัดเจนโดยต่ำกว่าที่ตลาดคาด (51.5 จุด) และเดือนก่อน (50.8 จุด) ด้านจีนรายงานตัวเลขเศรษฐกิจจีนอย่าง PMI Services เดือน ก.ค. ออกมาสูงกว่าตลาดคาด อยู่ที่ระดับ 52.6 จุด เทียบกับตลาดคาดที่ 50.4 จุด และดีกว่าเดือนก่อนที่ 50.6 จุด
– รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้: ยูโรโซน Retail Sales เดือน มิ.ย. สหรัฐฯ MBA Mortgage Applications สัปดาห์สิ้นสุด 1 ส.ค.
– ติดตามรายงานผลประกอบการสำคัญวันนี้ อาทิ McDonald’s, Disney, Uber, Shopify, Airbnb
– ข่าวหุ้นอัปเดต: Palantir, MercadoLibre, Pfizer, Meituan, หุ้นกลุ่ม Macau Gaming
STOCK HIGHLIGHT
– Palantir Technologies (PLTR US) ประกาศคาดการณ์รายได้ปี 2025 ไว้ในช่วง $4.14–$4.15 พันล้าน เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์ก่อนหน้าที่อยู่ระหว่าง $3.89–$3.90 พันล้าน และสูงกว่านักวิเคราะห์คาดไว้ที่$3.90 พันล้าน ซึ่งสะท้อนภาพรวมที่สดใสขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยฝ่ายกลยุทธ์ฯ ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจจากศักยภาพและแนวโน้มการเติบโตที่ยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทำ All-time-high ส่งผลให้ Valuation ซื้อขายอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับบริษัทในกลุ่มเดียวกัน โดยมี Forward P/E อยู่ที่ 226.7 เท่า และ EV/EBITDA ที่ 506.6 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม Software ที่ 37.1 เท่า และ 34.1 เท่าตามลำดับ ซึ่งสะท้อนถึงความคาดหวังที่สูงอย่างมากของตลาดต่อการเติบโตในอนาคต ฝ่ายกลยุทธ์ฯ จึงแนะนำเพียงเก็งกำไรระยะสั้น (แนวรับ 161/150 แนวต้าน 180/199 จุดตัดขาดทุน 147) โดยให้น้ำหนักกับความแข็งแกร่งของพื้นฐานและกระแส AI ที่ยังคงสนับสนุนทิศทางธุรกิจ แต่ให้ระมัดระวังกับระดับราคาในปัจจุบันและความไม่แน่นอนจากปัจจัยเชิงนโยบายที่อาจเป็นแรงกดดันต่อราคาหุ้น
– MercadoLibre (MELI US) เปิดผลประกอบการไตรมาส 2 ที่สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของรายได้และยอดขายที่น่าประทับใจ แต่กำไรสุทธิกลับไม่เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ หลังบริษัทตัดสินใจรุกกลยุทธ์ส่งฟรีในตลาดหลักอย่างบราซิล ซึ่งส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นในระยะสั้น ฝ่ายกลยุทธ์ฯ ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้น MercadoLibre และแนะนำเก็งกำไร (แนวรับ 2165/1866 แนวต้าน 2627/2812 จุดตัดขาดทุน 1780) โดยให้น้ำหนักกับภาพการเติบโตในระยะยาวที่ยังแข็งแกร่ง แม้ระยะสั้นจะมีแรงกดดันจากอัตรากำไรที่ลดลง จากการดำเนินกลยุทธ์เชิงรุก เช่น การขยายบริการจัดส่งฟรีในตลาดหลักอย่างบราซิล เพื่อตอบสนองต่อการแข่งขันในอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซที่รุนแรงขึ้น โดยเรามองว่าการดำเนินกลยุทธ์ดังกล่าวสะท้อนถึงความสามารถในการปรับตัวเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด และจะช่วยหนุนรายได้ในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากจุดแข็งของโครงสร้าง Ecosystem ที่บริษัทเชื่อมโยงบริการ Marketplace, ระบบชำระเงิน, โลจิสติกส์, สินเชื่อ และโฆษณาเข้าไว้ด้วยกันอย่างครบวงจร ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบสำคัญเหนือคู่แข่งรายอื่น
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon