CPALL-เซเว่น อีเลฟเว่น มุ่งมั่นพัฒนาบุคลากรด้าน AI ทั้งในและนอกองค์กรต่อเนื่อง จับมือพันธมิตรพันธมิตรจากภาครัฐและเอกชน จัดค่าย “Creative AI Camp ปีที่ 8” สร้างสรรค์ AI แก้โจทย์ธุรกิจ

13
มิติหุ้น – ซีพี ออลล์-เซเว่น อีเลฟเว่น วางวิสัยทัศน์ขับเคลื่อนการพัฒนาบุคลากรด้าน AI ทั้งในและนอกองค์กร ยกระดับ Mindset-Toolset-Skillset ต่อเนื่อง ตั้งเป้าพนักงานปัจจุบันอย่างน้อย 60% ใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเป็นประจำภายในปี 2571 พร้อมค้นหาวิธีการใช้ AI แก้ Pain Point ธุรกิจต่อเนื่อง เดินหน้าจับมือพันธมิตรหลากสัญชาติ จัดค่าย Creative AI Camp ปีที่ 8 “AI Nexus : The Bridge to Infinite Possibilities” ปั้นเด็ก ม.ปลาย-ปวช.-ปวส.-อุดมศึกษา สร้างสรรค์ AI แก้โจทย์ภาคธุรกิจ พัฒนาสู่นักประยุกต์ใช้ AI รับมือความต้องการทุกอาชีพในอนาคต โชว์ความสำเร็จ 2 อดีตเด็กค่ายตั้งบริษัท Amigrow Group ที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation
 
นายก่อศักดิ์  ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และ เซเว่น เดลิเวอรี่ กล่าวว่า ในช่วง 3 ปีล่าสุด เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ความใหญ่ของพารามิเตอร์ซึ่งสะท้อนถึงความซับซ้อนของ AI เดิมอยู่หลักแสนล้านพารามิเตอร์ ปัจจุบันเลยหลักล้านล้านไปไกลแล้ว AI กลายเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของผู้คนแทบทุกสายงานทุกสายอาชีพ บริษัทจึงวางวิสัยทัศน์ลงทุนพัฒนาทักษะบุคลากรในองค์กรด้าน AI ควบคู่กับการพัฒนาทักษะเยาวชนด้าน AI อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยพัฒนาทั้งองค์กรและอนาคตของชาติให้พร้อมรับมือโลกแห่งอนาคต
ทั้งนี้ บริษัทเดินหน้าจัดคอร์สฝึกอบรมภายใน เพื่อพัฒนาบุคลากรใน 3 มิติ ได้แก่ วิธีคิด (Mindset) เครื่องมือ (Toolset) และชุดทักษะ (Skillset) ที่เกี่ยวข้องกับ AI อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งตั้งเป้ายกระดับพนักงานปัจจุบันอย่างน้อย 60% ให้ใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเป็นประจำภายในปี 2571 ขณะเดียวกัน ยังคงเดินหน้าจับมือพันธมิตรกว่า 8 ราย ได้แก่ google, AWS, Gosoft, Depa, Nectec, Metro System, สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จัดค่าย Creative AI Camp ปีที่ 8 ภายใต้แนวคิด “AI Nexus : The Bridge to Infinite Possibilities” พัฒนาเยาวชนตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูง (ปวส.) จนถึงระดับอุดมศึกษาชั้นปีที่ 2 อย่างเข้มข้น 3 เดือน ให้มีขีดความสามารถด้าน AI อย่างรอบด้าน และได้สัมผัสโจทย์จริงจากภาคธุรกิจ
ด้านนายป๋วย ศศิพงศ์ไพโรจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ศูนย์ปัญญาประดิษฐ์สร้างสรรค์ สำนัก Digital Strategy บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดงานในอนาคต จะต้องการผู้ที่มีทักษะ AI ใน 3 ระดับ 1.ผู้ที่มีความสามารถในการประยุกต์ใช้งานขั้นสูง (Super User) 2.นวัตกร (Innovator) และ 3.ผู้พัฒนา (Developer) องค์กรจะคาดหวังว่าพนักงานทุกคนจะต้องมีทักษะ AI ติดตัวมาบ้าง เหมือนที่คาดหวังว่าพนักงานทุกคนในปัจจุบันต้องมีทักษะการใช้อินเทอร์เน็ต ทักษะการใช้ Microsoft Office ค่าย Creative AI Camp ในฐานะค่ายพัฒนาทักษะ AI เยาวชนไทยที่จัดมาอย่างต่อเนื่องที่สุด และสร้างความเปลี่ยนแปลงมากที่สุดในปัจจุบัน จึงไม่ได้คาดหวังให้เยาวชนทุกคนที่จบค่ายนี้ไปต้องกลายเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ (Software Engineer) แต่คาดหวังให้ทุกคนมีทักษะในการประยุกต์ใช้ AI อย่างสร้างสรรค์กับอาชีพในอนาคตของตัวเอง เพราะ AI สามารถเข้าไปยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของแต่ละอาชีพได้
“วันนี้เยาวชนตื่นตัวด้าน AI กันมากขึ้น จำนวนผู้สมัครปีนี้พุ่งสูงทะลุ 700 คน น้องๆ หลายคนพกทักษะด้าน AI มาครึ่งกระเป๋าตั้งแต่ก่อนเข้าร่วมค่ายแล้ว ค่ายจึงไม่ได้มุ่งแค่พัฒนาทักษะด้าน AI แต่ยังมุ่งพัฒนาทักษะ Critical Thinking การสร้าง 7 อุปนิสัย หรือ 7 Habits ของผู้มีประสิทธิผลสูง ไปจนถึงทักษะการสร้าง Teamwork ขณะเดียวกัน เราให้เด็กๆ ได้ทดลองแก้ปัญหาโจทย์จริงจากภาคธุรกิจในเครือซีพี ออลล์ ที่มีแนวโน้มจะแก้ไขได้แล้วด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน เด็กๆ ได้ฝึกทักษะความคิดสร้างสรรค์ ได้ความภาคภูมิใจหากแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจริงได้ ส่วนเราเองก็ได้ทดลองแนวคิด ไอเดียใหม่ๆ แก้ Pain Point ของหน่วยธุรกิจต่างๆ ลดความเสี่ยงการทำธุรกิจที่ผิดพลาด” นายป๋วย กล่าว
ด้านนายเลิศชัย คงอำนวยศักดิ์ AI Specialist และหนึ่งในเมนเทอร์ของค่าย Creative AI Camp ปีที่ 8 กล่าวว่า นอกเหนือจากทักษะด้านเทคโนโลยีแล้ว AI Talent ที่องค์กรต้องการในปัจจุบัน ต้องมีคุณลักษณะ 3 ด้าน 1.ต้องมีความใฝ่รู้ พร้อมเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ อยู่เสมอ เนื่องจาก AI ที่ใหม่ในวันนี้ อาจมีสิ่งที่ใหม่กว่าแล้วในอีก 10 วันข้างหน้า 2.ต้องมีสังคมแห่งการแบ่งปัน (Community) เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้วยมุมมองที่หลากหลาย และ 3.มีความคิดนอกกรอบ มีไอเดียใหม่ๆ ไปประยุกต์ใช้สร้างสรรค์นวัตกรรม
“การเข้าร่วมเป็นเมนเทอร์ในครั้งนี้ ไม่ได้มุ่งให้ความรู้แต่เรื่องเทคโนโลยี แต่จะให้แนวคิดทั้งการสร้างทีม การแบ่งงานกันในทีม ทักษะ Pitching และคาดหวังว่าทักษะที่มอบให้น้องๆ เยาวชนในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้แก่น้องๆ ทั้งในการทำงานและการพัฒนาประเทศต่อไป” นายเลิศชัย กล่าว
หลังการจัดค่าย Creative AI Camp อย่างต่อเนื่องถึง 8 ปี อดีตเยาวชนระดับ ม.ปลายในปีแรกๆ ได้เติบโตจนใกล้เรียนจบระดับมหาวิทยาลัย บางคนแม้จะไม่ได้ศึกษาต่อด้าน AI โดยตรง แต่ก็ออกมาร่วมกันก่อตั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ AI ในขณะที่ยังศึกษาอยู่ ล่าสุด นายพศวัต เพ็งพริ้ง หรือน้องต้นกล้า และนายพูนเพิ่ม เกษหอม หรือน้องอู๋ อดีตเยาวชนค่าย Creative AI Camp ปีที่ 2 ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation ของตัวเอง ระหว่างกำลังศึกษามหาวิทยาลัย
นายพศวัต เพ็งพริ้ง หรือน้องต้นกล้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ.เอ็ม.จี. อะมิโกรว์ กรุ๊ป หรือ Amigrow Group และอดีตเยาวชนค่าย Creative AI Camp ปีที่ 2 เล่าว่า ค่าย Creative AI Camp ถือเป็นเวทีแรกที่ทำให้ได้รู้จัก AI จากเด็กธรรมดาที่ไม่ได้สนใจ AI มาก่อน ไม่เล่นเกม ไม่มีคอมพิวเตอร์ ค่ายทำให้ตระหนักว่าสิ่งที่ต้องทำคือการหาความรู้เพิ่มเติม ค่ายยังเป็นพื้นที่ให้ทดลองทำอะไรหลายๆ อย่างปลอดภัย โดยมีการสนับสนุนจากวิทยากรและเมนเทอร์ในค่าย สิ่งสำคัญที่สุดคือ ค่ายกดดันให้ต้องเรียนรู้ เพราะเมื่ออยู่ร่วมในสังคมของค่าย หากไม่เร่งเรียนรู้ก็จะตามคนอื่นไม่ทัน อีกทั้งยังสร้างแรงบันดาลใจให้เริ่มต้นประกอบธุรกิจกับเพื่อนที่มองเห็นทิศทางความสำคัญของ AI ต่อภาคธุรกิจเหมือนกัน เลยมาร่วมกันตั้ง Amigrow Group เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการทำ Digital Transformation สำหรับองค์กร
นายพูนเพิ่ม เกษหอม หรือน้องอู๋ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท เอ.เอ็ม.จี. อะมิโกรว์ กรุ๊ป หรือ Amigrow Group และอดีตเยาวชนค่าย Creative AI Camp ปีที่ 2 กล่าวว่า บริษัทมีผู้ก่อตั้งทั้งสิ้น 4 คน โดยเป็นอดีตสมาชิกค่าย Creative AI Camp 2 คน เนื่องจากมองเห็นการเติบโตของ AI ที่ส่งผลต่อภาคธุรกิจ จึงได้รวมตัวกันตั้งบริษัทที่มีทั้งผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจ ด้านเทคโนโลยี เพื่อช่วยเหลือกลุ่ม SME ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังขาดความรู้ความเข้าใจด้านเทคโนโลยี ให้สามารถเปลี่ยนผ่าน นำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับส่วนต่างๆ ของธุรกิจ หรือ Digital Transformation ได้อย่างเหมาะสม โดยคำว่า Amigrow เป็นการเล่นคำพ้องเสียงกับคำว่า Amigo ในภาษาสเปนที่แปลว่าเพื่อน แต่เปลี่ยนคำว่า Go เป็น Grow เติบโต สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของบริษัท “A friend who help you grow, or a space for growing together” ที่ต้องการเป็นเพื่อนช่วย SME เติบโต
ทั้งนี้ การจัดค่าย Creative AI Camp ปีที่ 8 ได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากพันธมิตรชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในสายงาน AI มากกว่า 30 ราย แบ่งเป็น 1.กลุ่มสถาบันการศึกษา ได้แก่ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรังสิต 2.กลุ่ม Mentor และผู้สนับสนุนเครื่องมือ อาทิ บริษัท โกซอฟต์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท กูเกิล (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด (AWS) บริษัท ไอโนว์พลัส จำกัด, The Sun Plex Engineering And Software  Co., Ltd., Ambient19 Co., Ltd., บริษัท เวคิน (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เซอร์ทิส จำกัด ฯลฯ โดยมีทีมงาน ตลอดจนผู้บริหารระดับ CEO และผู้ก่อตั้งของแต่ละองค์กรร่วมเป็น Mentor ด้วย 3.กลุ่มผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เป็นผู้ที่ทำงานอยู่ในองค์กรเทคโนโลยีระดับโลกและมาร่วมเป็นวิทยากรแบ่งปันองค์ความรู้ในนามส่วนตัว และ 4.กลุ่มผู้สนับสนุนโจทย์ปัญหา เป็นผู้คัดเลือกโจทย์น่าสนใจที่เผชิญจริงในภาคธุรกิจ
สำหรับค่าย Creative AI Camp จัดขึ้นภายใต้นโยบายสร้างคนผ่านการศึกษา ตามปณิธานองค์กร “Giving & Sharing” มุ่งเน้นให้เหล่าเยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของชาติ ได้พัฒนาทักษะความสามารถจนเป็น “คนพันธุ์ AI  หัวใจโกะ” วิถีความเป็นมนุษย์ AI สร้างสรรค์ สามารถสร้างสรรค์ AI  ผสมผสานปรัชญาหมากล้อม เพื่อประโยชน์ของสังคม และกลายเป็นเมล็ดพันธุ์แห่งการเปลี่ยนโลกในอนาคต ปัจจุบัน มีกิจกรรมเยาวชนด้านๆ AI ใหม่ๆ เกิดขึ้นต่อเนื่องภายใต้ Creative AI Club โดยผู้สนใจกิจกรรมของ Creative AI Club สามารถสมัครเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งได้ที่ https://caicamp.cpall.co.th/

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon