กสทช. ไฟเขียวปรับปรุงหลักเกณฑ์ลดหย่อน USO กรณีเป็นประโยชน์สาธารณะและมีความจำเป็นเร่งด่วน และแก้ไขนิยามให้ครอบคลุมงานด้านความมั่นคงด้านโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ

27

มิติหุ้น – คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้มีการประชุม กสทช. ครั้งที่  23/2568 เป็นการประชุมต่อเนื่องจากวันที่ 6 ส.ค. 2568 โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 09.30 น.

          นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เปิดเผยว่า วันที่ 6 – 7 สค. 2568 มีระเบียบวาระเข้าสู่ที่ประชุม กสทช. จำนวนทั้งสิ้น 63 วาระ ผ่านการพิจารณาทั้งสิ้น 29 วาระ ซึ่งมีวาระที่น่าสนใจ ได้แก่ วาระที่ 4.11 เรื่อง (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการนำค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงจากภารกิจด้านโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะมาหักลดหย่อนจากรายได้ที่ต้องจัดสรรเพื่อนำไปใช้ในการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (ฉบับที่ 2)

สำนักงาน กสทช. ได้เสนอ กสทช. อนุมัติร่างประกาศฯ ฉบับที่ 2 เพื่อประกาศใช้อย่างเป็นทางการ หลังผ่านการปรับปรุงโดยเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ซึ่งได้ปรับปรุงการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการนำค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการทำโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (USO) ให้สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้สุงสุด เช่น การจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตขั้นพื้นฐานในชุมชน โรงเรียน และพื้นที่ห่างไกล ส่งเสริมโครงข่ายสื่อสารเพื่อสนับสนุนความมั่นคง และพร้อมรับกับสถานการณ์ฉุกเฉินหรือภัยพิบัติ ร่างประกาศฯ ฉบับที่ 2 นี้ ได้ปรับปรุงแก้ไขนิยาม “ภารกิจด้านโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ” ให้ครอบคลุมการจัดให้บริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม ซึ่งรวมถึงการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์ด้านความมั่นคงหรือประโยชน์สาธารณะตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบกิจการโทรคมนาคม

          นอกจากนี้ยังขยายเพดานจำนวนเงินหักลดหย่อนค่า USO จากปัจจุบันไม่เกินร้อยละ 15 ของจำนวนเงินรายได้ที่ต้องจัดสรรและเป็นจำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 200 ล้านบาทต่อปี ในกรณีที่เป็นภารกิจด้านโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะที่มีความจำเป็นเร่งด่วน จะสามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนเพิ่มได้อีกไม่เกินร้อยละ 5 ของจำนวนเงินรายได้ที่ต้องจัดสรร และเป็นเงินจำนวนไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อปีอีกด้วย

          วาระที่ 6.2 เรื่อง ขอใช้สิทธิตามมาตรา 39 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 และประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการใช้สิทธิในการปักหรือตั้งเสา เดินสาย วางท่อ หรือติดตั้งอุปกรณ์ประกอบใดในการให้บริการโทรคมนาคม กรณีการขอสร้างท่อร้อยสายสื่อสาร

          บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เกทเวย์ จำกัด และ บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชัน จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นคำร้องต่อสำนักงาน กสทช. เพื่อรับสิทธิตามมาตรา 39 วรรคหนึ่ง ในการปักหรือตั้งเสา เดินสาย วางท่อ หรือติดตั้งอุปกรณ์ประกอบใดในการให้บริการโทรคมนาคม โดยบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนลฯ มีความประสงค์ต้องการสร้างท่อร้อยสายสื่อสาร จำนวน 10 เส้นทาง รวมระยะทางทั้งสิ้น 119 กิโลเมตร ในพื้นที่จังหวัดสตูลและสงขลา โดยวางท่อเดินสายเคเบิลใยแก้วนำแสง กับกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ในการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมระหว่างประเทศภาคพื้นน้ำฝั่งทะเลอันดามัน และบริษัท ซิมโฟนี่ฯ ได้ยื่นคำขอวางท่อร้อยสายสื่อสารจำนวน 1 เส้นทาง รวมระยะทางทั้งสิ้น 3.35 กิโลเมตรบริเวณสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 2 จ.มุกดาหารเนื่องจากบริษัท ซิมโฟนี่ฯ ได้รับผลกระทบจากการตัดการเชื่อมต่อโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา ซึ่งเป็นทางผ่านไปยังคู่ค้าในประเทศเวียดนาม

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon