KTB จ่อโอนสำรองกลับ หลังจัดชั้น THAI เป็นลูกหนี้ปกติ

76

 

มิติหุ้น-KTB โดยบล.กรุงศรี  ระบุว่า ยังคงแนะนำ “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายจาก 24.50 บาท ขึ้นเป็น 26.50 บาท อิงP/B ปี 68 ที่ 0.8 เท่า และROE ที่ 9.4% หลังจากปรับประมาณการกำไรปี 68-69 ขึ้น เราคาดว่าKTB จะบันทึกกำไรจากการลงทุนและลดค่าใช้จ่ายจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ(Credit cost) ซึ่งจะช่วยชดเชยผลกระทบจาก NIM ที่ลดลงในช่วงครึ่งหลังปี 68

ส่วนคุณภาพสินทรัพย์ของ KTB ไม่ได้กังวลนักเนื่องจากมี NPL coverage ที่สูงและพอร์ตสินเชื่อที่มีความเสี่ยงต่ำ ทั้งนี้ หุ้นให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ที่ 6.6% โดยอิงจาก payout ratio ที่คงที่ที่ 50% ความเสี่ยงหลัก ได้แก่ คุณภาพสินทรัพย์และ NIM ที่อ่อนแอกว่าคาด

 

Credit cost และ NIM มีแนวโน้มลดลงในครึ่งหลังปี 68

CEO ยังคงเป้าหมายทางการเงินทั้งหมดไว้ โดยคาดว่าสินเชื่อทั้งปีจะทรงตัว KTBมองว่าความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจโลกเริ่มลดลง และคาดว่าความต้องการสินเชื่อจะปรับตัวดีขึ้นหลังจากมีความชัดเจนของอัตราภาษีศุลกากรที่ 19% โดยธนาคารให้แนวโน้มว่า credit cost จะลดลง HoH ในครึ่งหลังปี 68 และแตะกรอบล่างของเป้าหมายที่ 1.05-1.25% ในปีนี้ ซึ่งเป็นผลจากพอร์ตสินเชื่อที่มีความเสี่ยงต่ำและการตั้งสำรอง NPLที่อยู่ในระดับสูง

อย่างไรก็ดี คาดว่า NIM จะลดลงQoQ ใน Q3/68 และ Q4/68 จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เราคาดว่า NIM หัก credit cost จะลดลงประมาณ 30bps YoY เหลือ 1.86% ในปี 68

 

คาดการบินไทยส่งผลบวกต่อกำไรจากการลงทุนและการกลับรายการสำรอง

เราคาดว่าการฟื้นฟูกิจการของ THAI จะส่งผลบวกต่อ KTB โดยธนาคารสามารถจัดชั้นสินเชื่อของ THAIกลับเป็นสินเชื่อปกติ และมีโอกาสกลับรายการสำรองบางส่วนในครึ่งหลังปี 68 โดยKTB มีสินเชื่อต่อ THAI ที่ 2.9 พันลบ. โดย Q4/67  KTBได้แปลงหนี้ของ THAI มูลค่า 3.4 พันลบ. เป็นหุ้น ส่งผลให้ NPL ลดลง

ปัจจุบันKTB ถือหุ้น THAI เป็นแบบวัดมูลค่าตามมูลค่ายุติธรรมผ่านงบกำไรขาดทุน จึงคาดว่ากำไรจากการลงทุนอาจรับรู้ได้ใน Q3/68 ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับราคาปิดของหุ้นในสิ้นไตรมาส

 

เพิ่มประมาณการกำไรปี 68-69 จากการเติบโต non-NII

               เราปรับประมาณการกำไรปี 68-69 ขึ้น 2-3% หลังจากปรับคาดการณ์การเติบโตของ non-NII ให้สอดคล้องกับผลประกอบการครึ่งแรกปี 68 และแนวโน้มครึ่งหลังปี 68 โดยปัจจุบันคาดว่ากำไรทั้งปี 68 จะทรงตัว YoY ที่ 4.38 หมื่นลบ. กำไร Q3/68 มีแนวโน้มได้แรงหนุนจากกำไรจากการลงทุน และcredit cost ที่ลดลง ซึ่งจะช่วยชดเชยผลกระทบจากNIM ที่ลดลงหลังการลดดอกเบี้ยนโยบาย โดยรวมเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคาร จาก NPL coverage ที่สูง และพอร์ตสินเชื่อที่มีสัดส่วนสูงของลูกหนี้ภาครัฐและข้าราชการ

 

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon