มิติหุ้น-Q-CON โดยบล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า Q2/68 ผิดหวัง : Q-CON รายงานกำไรสุทธิ 52 ลบ. หดตัว 2 ไตรมาสติดๆ โดยหดตัว -41.2% q-q และ -52.3% y-y ยังคงซบเซาตามภาวะเศรษฐกิจ และภาคอสังหาฯที่ซบเซา สรุปดังนี้
ยอดขาย ทำได้ที่ 453 ลบ. หดตัว -10.7% q-q และหด -20.1% y-y โดยรายได้ที่ต่ำสุดในรอบ 15 ไตรมาส โดย Q-CON เผยในคำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการว่า เกิดจากทั้งปริมาณ และ ราคาขายที่ลดลง ซึ่งเราพบว่าปัจจุบันงานก่อสร้างส่วนใหญ่ไปโต 3-5% ในงานโครงสร้างพื้นฐานจากการขับเคลื่อนภาครัฐ ขณะที่ภาคเอกชนยังคงเงียบเหงาหลังจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ และ เหตุแผ่นดินไหวเมื่อปลายเดือน มี.ค. ทำให้ผู้ประกอบการชะลอการเปิดโครงการใหม่ ส่งผลทำให้อุปสงค์อิฐมวลเบาลดลง
อัตรากำไรขั้นต้น ทำได้เพียง 24.3% ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 29.6% ในไตรมาสก่อน และ 31.2% ในปีก่อนหน้า จากแรงกดดันของต้นทุนคงที่ที่ยังคงอยู่
ภาคอสังหาฯ ยังไม่ดี : ใน 1H25 มีการเปิดตัวโครงการใหม่เพียง 1.5 หมื่นหน่วย ต่ำสุดในรอบหลายปี และลดลงถึง -30% y-y โดยช่วงนี้ยังเป็นช่วงระบายสต๊อกด้วยมาตรการกระตุ้นที่เริ่มเมื่อปลาย เม.ย. (ลดค่าธรรมเนียมโอน และจดจำนองบ้านต่ำกว่า 7 ลบ. และปรับเกณฑ์ LTV ชั่วคราวลงมาถึง 30 มิ.ย. 2026) ทว่าอุปสงค์ส่วนใหญ่วิ่งไปที่แนวราบ(บ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮ้าส์)
ปรับประมาณการลง : 1H25 กำไรสุทธิ 140 ลบ. คิดเป็นเพียง 35.8% ของประมาณการเดิม ขณะที่สถานการณ์อสังหาฯยังเงียบเหงา เราจึงปรับประมาณการกำไรลงโดยปรับลดอัตรากำไรขั้นต้นลง 400bps เป็น 26.0% อิง P/E เป้าหมายเดิม 8.7 เท่า ได้ราคาเหมาะสมใหม่ 6.50 บาท/ หุ้น (เดิม 8.50 บาท)
“ ภาคอสังหาฯ ยังไม่เห็นภาพการฟื้นตัว ยังคงอยู่ในช่วงระบายสต๊อก และรักษากระแสเงินสดของผู้ประกอบการ ทำให้การเปิดโครงการใหม่ล่าช้าออกไป ส่งผลต่ออุปสงค์ในอิฐมวลเบาที่อ่อนแอ ซึ่งผลการดำเนินงานอ่อนแอกว่าที่มองไว้เราจึงปรับประมาณการ และคำแนะนำลงมา ส่วนในเชิงกลยุทธ์ยังแนะ wait & see ตามเดิมจนกว่าจะมีสัญญาณฟื้นตัว ซึ่งเรามองไปที่อุปสงค์(real demand) มากกว่าอัตราดอกเบี้ยที่ตลาดลุ้นว่าจะลดลง ”
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
