มิติหุ้น – Investment Strategy
• สรุปภาพรวมตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 1% ในวันอังคาร (12 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ก.ค. ที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ หรือ ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า รวมถึง ประเด็น แรงสนับสนุนจากความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการขยายเวลาหยุดเก็บภาษีระหว่างสหรัฐฯ–จีน
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,458.61 จุด เพิ่มขึ้น 483.52 จุด หรือ +1.10%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,445.76 จุด เพิ่มขึ้น 72.31 จุด หรือ +1.13% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,681.90 จุด เพิ่มขึ้น 296.50 จุด หรือ +1.39% ส่วน ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 547.89 จุด เพิ่มขึ้น 1.13 จุด หรือ +0.21%
• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ จากภาพของเงินเฟ้อที่ออกมาเป็นบวกกับสินทรัพย์เสี่ยง สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ หรือ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. จึงปรับลดลง 5.7 ดอลลาร์ หรือ 0.17% ปิดที่ 3,399.00 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 51 เซนต์ หรือ 0.77% ปิดที่ 66.12 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าความต้องการใช้น้ำมันจะชะลอตัวลงในช่วงฤดูการขับขี่ยานยนต์ในหน้าร้อนของสหรัฐฯ ซึ่งจะสิ้นสุดลงในเดือนก.ย.
• SET Index : เราคาดกรอบ SET Index วันนี้ ณ ระดับ 1,250-1,275 จุด รับอานิสงค์ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ และ จับตาการประชุมกนง. บ่ายวันนี้ โดย เราคาดว่า กนง. จะ “คง” ดอกเบี้ยที่ระดับ 1.75% ในขณะที่ตลาดคาดว่ากนง. จะ “ลด” ดอกเบี้ยมาอยู่ที่ระดับ 1.50%
ดังนั้นแนะนำเทรดดิ้ง กลุ่มการเงิน, อสังหาริมทรัพย์ช่วงเช้าตามจิตวิทยาของตลาดก่อน และ ขายทำกำไรก่อนตลาดเปิดภาคบ่าย
หุ้นแนะนำ
TIDLOR:
กำไรสุทธิของ TIDLOR เพิ่มขึ้น 18.8% จากปีก่อน และ 6.4% จากไตรมาสก่อน เป็น 1.3 พันล้านบาท ในไตรมาส 2 2568 โดย ฝ่ายบริหารมั่นใจว่าต้นทุนทางเครดิตสำหรับปีงบประมาณ 2568 น่าจะต่ำกว่า 300bp เราปรับเพิ่มกำไรต่อหุ้น (EPS) ปีงบประมาณ 2568-2560 ขึ้น 10.2-13.7%
(Take profit : 17.80 / Stop loss : 17.30)
CKP:
CKP รายงานกำไรสุทธิ 610 ล้านบาทในไตรมาส 2/2568 เพิ่มขึ้น 725% จากปีก่อน หนุนโดยรายได้ที่แข็งแกร่ง ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่เพิ่มขึ้น และ ต้นทุนทางการเงินที่ลดลง
รายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาสก่อนในไตรมาส 2/2568 โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวแม้ต้นทุนเชื้อเพลิงจะเพิ่มขึ้น
ผลประกอบการที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 สนับสนุนให้อัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS) หลัก (CAGR) อยู่ที่ 15% ในช่วงปี 2567-2560
(Take profit : 3.00 / Stop loss : 2.86)
#CGSInternational
#CGSI
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
