มิติหุ้น – ท่ามกลางแนวโน้มการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและความต้องการที่พักคุณภาพในระดับพรีเมียมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัท ดีทีพี โกลบอล รีทส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (DTPRM) ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ธุรกิจโรงแรมและสิทธิการเช่าดีทีพี ฮอสพิทอลลิตี้ (DTPHREIT) ได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากกระแสใหม่ในตลาดลักซัวรีที่มีความนิยมด้านสุขภาพและประสบการณ์แบรนด์หรู ดันผลประกอบการไตรมาสสองเติบโตตามเป้าหมาย สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารทรัพย์สินและสร้างกระแสรายได้ที่มั่นคง กองทรัสต์ได้จ่ายผลประโยชน์ตอบแทนประจำไตรมาส 2/2568 ในอัตรา 0.1750 บาทต่อหน่วยทรัสต์
นางสาววนิดา สุขสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีทีพี โกลบอล รีทส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (DTPRM) กล่าวว่า ด้วยแนวโน้มเชิงบวกของธุรกิจโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ในประเทศไทย ซึ่งได้รับอานิสงส์จากกระแสใหม่ในตลาดลักชัวรี มีการขับเคลื่อนโดยกลุ่มธุรกิจด้านสุขภาพที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และการเติบโตของตลาดกลุ่มที่พักอาศัยแบรนด์หรู หรือ แบรนเด็ด เรสซิเดนส์ (Branded Residence) ปัจจุบันมีขนาดตลาดใหญ่เป็นที่น่าจับตาในเอเชีย สะท้อนให้เห็นความต้องการของลูกค้าที่ชื่นชอบแบรนด์เนมด้านอสังหาฯ
“แนวโน้มของธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ นับได้ว่า ประเทศไทยกำลังเป็นผู้นำตลาด รวมไปถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตกลางแจ้ง และการจัดกิจกรรมสร้างไลฟ์สไตล์ที่ส่งเสริมสุขภาพอย่างยั่งยืน นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะอยู่ต่อนานขึ้น และปรับพฤติกรรมการใช้จ่าย โดยแนวคิดเรื่องการดูแลสุขภาพเพื่ออายุยืนกำลังก้าวขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดลักชัวรียุคใหม่ โดยเฉพาะในทำเลที่กองทรัสต์ลงทุน ซึ่งยังคงได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติ นักธุรกิจ และผู้พำนักระยะยาว ด้วยกลยุทธ์เชิงรุกในการบริหารสินทรัพย์และการรักษาคุณภาพการให้บริการ เราเชื่อมั่นว่ากองทรัสต์จะสามารถรักษาผลการดำเนินงานให้อยู่ในระดับที่ดี และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง”
กองทรัสต์ DTPHREIT ลงทุนในทรัพย์สินคุณภาพสูง 3 แห่ง ได้แก่
- โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ (Waldorf Astoria Bangkok)เป็นแบรนด์ระดับตำนานเป็นหนึ่งในแบรนด์หรูที่สุดของเครือ HILTON Worldwide อยู่ในทำเลทองย่านราชประสงค์ใจกลางกรุงเทพฯ รายล้อมด้วยศูนย์การค้าระดับโลก เดินทางสะดวก และมีวิวสวยจากมุมสูงมองเห็นสวนลุมและราชกรีฑาสโมสร และสกายไลน์เมือง ออกแบบตกแต่งโดยสถาปนิกระดับโลก Andre’ Fu มีห้องอาหารและบาร์ที่มีชื่อเสียง เช่น Bull & Bear, Peacock Alley มีบริการ Butler และ Concierge ส่วนตัว เป็นหนึ่งในโรงแรมที่สามารถตั้งราคาห้องสูงที่สุดในกรุงเทพฯ มีจำนวนห้อง 171 ห้อง บริหารโดย HILTON Worldwide มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในปี 2567 อยู่ที่ 64%
- โรงแรมยู เขาใหญ่ (U Khao Yai)รีสอร์ตหรูที่มีเอกลักษณ์ทั้งรูปลักษณ์และบรรยากาศในสไตล์ชาโตว์ฝรั่งเศสผสมกับความอบอุ่นแบบไทยมีทะเลสาบส่วนตัว และใกล้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของกลุ่มครอบครัวและ คู่รัก สามารถเข้าถึงตลาดนักท่องเที่ยวไทยรายได้สูงและกลุ่ม Staycation มีห้องพักและห้องสวีทจำนวน 63 ห้อง ซึ่งออกแบบให้โปร่ง โล่ง สบาย ให้ประสบการณ์การพักผ่อนแบบรีสอร์ตแท้จริง บริหารโดย Absolute Hotel Services ผู้เชี่ยวชาญการบริหารโรงแรมระดับสากล นำเสนอแนวคิด “24-hour room use” มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยปี 2567 อยู่ที่ 77% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
- เซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด (MRB)อพาร์ทเมนท์ระดับลักซัวรีมีจำนวนจำกัดในทำเลที่หาได้ยากถือเป็น Rare Asset เพราะตั้งอยู่ในทำเลใจกลางราชประสงค์ (CBD) ตั้งอยู่ติดถนนราชดำริ ฝั่งตรงข้ามราชกรีฑาสโมสร ใกล้ BTS ราชดำริ รายล้อมด้วยศูนย์การค้าไฮเอนด์ เช่น เซ็นทรัลเวิลด์ เกษรพลาซ่า สยามพารากอน และสวนลุมพินี ถือเป็นคุณภาพสินทรัพย์ระดับ Flagship ตั้งอยู่ในอาคารเดียวกับโรงแรม Waldorf Astoria Bangkok ซึ่งเป็นโรงแรมลักชัวรีระดับโลก
การตกแต่งภายใน พื้นที่ส่วนกลาง และสิ่งอำนวยความสะดวกเทียบเท่าโรงแรม 5 ดาว แขกผู้พักสามารถเข้าถึงฟิตเนส สระว่ายน้ำ ห้องประชุม และพื้นที่พักผ่อนมาตรฐานโรงแรม
บริหารโดย Compass Hospitality บริษัทบริหารโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ชั้นนำ มีประสบการณ์บริหารสินทรัพย์ระดับบนทั่วเอเชีย บริหารโดยเน้นการดูแลระยะยาว และตอบโจทย์ความต้องการของผู้เช่าซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Expat, ข้าราชการระดับสูง, นักการทูต และผู้บริหารจากบริษัทยักษ์ใหญ่ เหมาะสำหรับผู้ต้องการความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และทำเลที่สะดวกในการเดินทาง มีความต้องการเช่าอย่างสม่ำเสมอแม้ในช่วงเศรษฐกิจผันผวน มีห้องพักทั้งหมด 99 ห้อง และ มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยปี 2567 ที่ 91%
นางสาววนิดา กล่าวสรุปว่า การจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนในไตรมาส 2 ครั้งนี้สะท้อนความมั่นคงของกระแสรายได้จากสินทรัพย์ที่กองทรัสต์ลงทุน ซึ่งล้วนเป็นทรัพย์สินระดับลักชัวรีในทำเลศักยภาพสูง และอยู่ภายใต้การบริหารจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญระดับโลก เรามีความมุ่งมั่นที่จะบริหารกองทรัสต์อย่างมืออาชีพ โดยคำนึงถึงความยั่งยืนและการสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในระยะยาว
สำหรับนักลงทุน DTPRM ได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ตอบแทนในวันที่ 13 มิถุนายน 2568 และดำเนินการจ่ายประโยชน์ตอบแทนในวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา กองทรัสต์ได้จ่ายผลประโยชน์ตอบแทนประจำไตรมาส 2/2568 ในอัตรา 0.1750 บาทต่อหน่วยทรัสต์
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon