มิติหุ้น – ‘บมจ.โอสถสภา (OSP)’ โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 แข็งแกร่ง ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งอัตรากำไรขั้นต้น 41.9% ขยายตัว 3.7% YoY และ 1.6% QoQ มีกำไรสุทธิ 1,010 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติในงวดก่อน เติบโต 9% YoY และ 4% QoQ ตอกย้ำศักยภาพการบริหารจัดการและกลยุทธ์การดำเนินงานที่สร้างผลกำไรอย่างแข็งแกร่ง ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.40 บาทต่อหุ้น เดินหน้าขยายตลาดขับเคลื่อนการเติบโตในครึ่งปีหลังและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตควบคู่การบริหารจัดการต้นทุนต่อเนื่อง
นางสาวรติพร ราษฎร์เจริญ Group Chief Financial Officer บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2568 (เมษายน-มิถุนายน) บริษัทฯ ทำรายได้จากการขาย 6,807 ล้านบาท ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน จากกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มในต่างประเทศลดลงจากปัจจัยฤดูกาล ในขณะที่รายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มในประเทศและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลเติบโต ทั้งนี้ บริษัทฯ สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริหารจัดการช่องทางการจัดจำหน่าย รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่ปรับตัวลดลง และการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศและกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลซึ่งมีอัตรากำไรสูงกว่าค่าเฉลี่ย ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 41.9% และทำกำไรสุทธิ 1,010 ล้านบาท ถือเป็นกำไรจากการดำเนินงานปกติสูงสุดนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกครั้ง หนุนให้ภาพรวม 6 เดือนแรกบริษัทฯ มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ 1,980 ล้านบาท เติบโต 13% YoY ตอกย้ำศักยภาพการทำกำไรที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ภาพรวมเศรษฐกิจยังชะลอตัว
นางสาวรติพร กล่าวเพิ่มเติมว่า “โอสถสภายังคงครองตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังด้วยส่วนแบ่งการตลาดในครึ่งปีแรก 44.6% เดินหน้ากิจกรรมการตลาดเชิงรุกโดยมุ่งเน้นกลยุทธ์กลุ่มผลิตภัณฑ์ (Brand Portfolio) เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในหลายระดับราคา พร้อมทำแคมเปญการตลาดตอกย้ำความเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของไทย และสร้างมูลค่าเพิ่มต่อยอดแบรนด์ผ่านความร่วมมือระหว่างแบรนด์เพื่อขยายฐานผู้บริโภค โดยในไตรมาส 2 รายได้เครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศเติบโต 4% QoQ หลังจากการปรับโครงสร้างการขายและการจัดจำหน่ายถึงเดือนเมษายน ทำให้รายได้ของกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มในประเทศฟื้นตัวต่อเนื่องในเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน ด้านกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มฟังก์ชันนัล ดริงก์เติบโตต่อเนื่องโดยเฉพาะเครื่องดื่มเปปทีน สะท้อนความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์สุขภาพ ด้านรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลเติบโตโดดเด่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากกลุ่มผลิตภัณฑ์เด็กและครอบครัวแบรนด์เบบี้มายด์และอัลตร้ามายด์ ที่ขยายฐานสู่กลุ่มผู้บริโภคที่กว้างขึ้นและการขยายตลาดสู่ต่างประเทศ ทั้งนี้ ภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายในและภายนอก แต่โอสถสภาสามารถควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปรับปรุงกำลังการผลิตให้สอดคล้องกับปริมาณการขายรวมถึงต้นทุนวัตถุดิบและราคาก๊าซที่ลดลง ส่งผลให้อัตรากำไรจากธุรกิจหลักสามารถสร้างสถิติใหม่ตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของกลยุทธ์และพื้นฐานทางธุรกิจที่มั่นคง ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกในอัตรา 0.40 บาทต่อหุ้น เป็นจำนวนเงิน 1,201.50 ล้านบาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 28 สิงหาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 12 กันยายน 2568
โอสถสภายังคงมุ่งมั่นยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับกิจกรรมการตลาดและการสร้างแบรนด์อย่างรอบด้าน พร้อมเสริมความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายการจัดจำหน่ายและระบบกระจายสินค้า ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการสนับสนุนการฟื้นตัวของส่วนแบ่งการตลาดอย่างยั่งยืนท่ามกลางความท้าทายและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon