มิติหุ้น – Investment Strategy
• สรุปภาพรวมตลาด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง โดย ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สองในวันพุธ (13 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮติดต่อกันวันที่สอง โดยตลาดยังคงได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,922.27 จุด เพิ่มขึ้น 463.66 จุด หรือ +1.04%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,466.58 จุด เพิ่มขึ้น 20.82 จุด หรือ +0.32% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,713.14 จุด เพิ่มขึ้น 31.24 จุด หรือ +0.14%
• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 49 เซนต์ หรือ 0.74% ปิดที่ 65.63 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่สูงเกินคาด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.3 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 3,408.30 ดอลลาร์/ออนซ์
• SET Index : เราคาดการณ์กรอบ SET Index ในวันนี้ ณ ระดับ 1,260-1,285 จุด แรงซื้อน่าจะเริ่มชะลอลง รับอานิสงค์ตัวเลขเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ที่ออกมาใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์ และ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของกนง. ที่ระดับลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 1.50%
กลยุทธ์การลงทุน ระมัดระวังแรงขายทำกำไร sell on fact หลังจากที่ตลาดตอบรับเชิงบวกในเรื่องของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งในประเทศไทย และ สหรัฐฯ ประกอบกับการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2 ปี 2568 ที่ออกมาเกือบหมดแล้ว
เราแนะนำปรับลดน้ำหนักการลงทุนที่ดัชนีระดับ 1,280 ถือเงินสดมากขึ้น และ selective buy ในหุ้นที่ยัง laggard
วันนี้ติดตามตัวเลข PPI สำหรับเดือน ก.ค. ของสหรัฐฯ โดยตลาดคาดการณ์เพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.3% ในเดือนมิ.ย. และคาดว่าดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.6% ในเดือนมิ.ย.
หุ้นแนะนำ
GULF:
กำไรสุทธิใน 2Q25 เติบโตก้าวกระโดดหนุนทั้งจากธุรกิจหลักที่เติบโต ส่วนแบ่งกำไรจาก ADVANC เป็นไตรมาสแรก และกำไรที่เกิดขึ้นจากการรวมธุรกิจ (one-off) เราจึงปรับเพิ่มประมาณการ EPS ในปี FY25 ในขณะที่รายได้จากการดำเนินงานเติบโต 21.9% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และ 25.1% จากไตรมาสก่อน ใน 2Q25 นำโดยธุรกิจผลิตไฟฟ้าทั้งจากก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียน แต่อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจากต้นทุนค่าก๊าซที่สูงขึ้น
(Take profit : 48.75 / Stop loss : 47.50)
TIDLOR:
บริษัทมีกําไรสุทธิเติบโต 18.8% จากปีก่อน และ 6.4% จากไตรมาสก่อน เป็น 1.3 พันล้านบาท ในไตรมาส 2 ปี 2568 โดยผู้บริหารเชื่อมั่นว่าอัตราการสำรองหนี้สูญในปี FY25 จะต่ำกว่า 300bp ในขณะที่เราปรับประมาณการ EPS ในปี FY25-27 ขึ้น 10.2-13.7% และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 20 บาท
(Take profit : 19.00 / Stop loss : 18.50)
#CGSInternational
#CGSI
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
