มิติหุ้น- JMT หรือ บล.ลิเบอเรเตอร์ ไตรมาส 2 ผิดหวังต่อเนื่อง : JMT รายงานกำไรสุทธิ 247 ลบ. หดตัว -25.2% q-q และ -32.8% y-y ถอยตัวลงต่อกว่าที่เคยมองไว้จากการตั้ง ECL ที่เร่งตัวขึ้น แต่ก็มีสัญญาณเชิงบวกว่าเป็นจุดต่ำสุดของปีแล้ว
การเก็บหนี้ (Cash collection) ทำได้ 2.1 พัน ลบ. หดลง -1.7% q-q ในส่วนของ JMT เก็บได้ 1.3 พันลบ. ลดลง -5.1% q-q แต่ฝั่ง JK AMC เก็บได้ 865 ลบ. เพิ่มขึ้น +3.6% q-q
การตั้ง ECL สูงถึง 259 ลบ. เพิ่มจาก 176 ลบ. ใน Q1/68 ผบห.อธิบายว่าเกิดจากเหตุแผ่นดินไหวปลาย Q1/68 ทำให้ต้องช่วยลูกหนี้เลื่อนการชำระหนี้ในเดือน เม.ย. ทำให้ภาพรวมการเก็บหนี้ต่ำกว่าแผน กอปรกับเพื่อความอนุรักษ์นิยม จึงตัดสินใจตั้ง ECL เพิ่มเข้าไปอีก(Frontload) เหล่านี้จึงเข้ามากดดันกำไร Q2/68 อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ดีปัจจุบันลูกค้าทยอยกลับมาชำระแล้ว แต่ยังไม่ได้อยู่ในระดับปกตินัก แต่มีแนวโน้มว่าการตั้ง ECL จะลดลงใน Q3/68
อัตรากำไรขั้นต้น 63.9% เพิ่ม +330bps จากการคุมต้นทุนเข้มงวด ดอกเบี้ยจ่ายลดลง -9.5% q-q จากการชำระคืนหุ้นกู้ 3,000 ลบ. เมื่อเดือน เม.ย. ผบห.เผยว่าการชำระคืนหุ้นกู้ 3.4 พัน ลบ. ในเดือน ต.ค. นั้น JMT มีเงินสดและแหล่งกระแสเงินสดรวมเกินกว่า 9 พัน ลบ.เพียงพอต่อการชำระแล้ว
ปรับประมาณการลง 22.6% : กำไร 1H25 คิดเป็น30.8% ของประมาณการเดิมจาก ECL ที่พุ่งเกินคาด เราปรับสมมติฐาน ECL จาก 2.5% เป็น 4.0% ของพอร์ต และปรับส่วนแบ่งกำไร JK AMC ลงในลักษณะเดียวกัน กำไรปีนี้จึงถูกปรับลง 22.6% เป็น 1.4 พัน ลบ. หดตัว -10.3% y-y ขณะที่ P/E เป้าหมายปรับใช้ค่าเฉลี่ย 2 ปี 13.6x ได้ราคาเหมาะสมใหม่ 13.50 บาท ลดลง 34.1%
“แม้กำไร Q2/68 จะผิดหวังจากการเข้มงวดตั้ง ECL แต่สัญญาณการตั้ง ECL ที่ลดลง ผสานกับการกลับมาซื้อหนี้ 263 ลบ. (จากเป้า 2,000 ลบ.) คิดเป็นมูลหนี้เกือบ 2 หมื่น ลบ. สะท้อนความเชื่อมั่นในการเริ่มกลับสู่เส้นทางปกติมากขึ้น ปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่ P/E25E เพียง 11.6 เท่า เรามองว่า downside จำกัด นักลงทุนระยะยาวเริ่มทยอยสะสมได้ หรือ อาจจะรอเห็น Cash collection ฟื้นตัว q-q ในไตรมาส 3 ก่อนค่อยเริ่มก็ได้ ”
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon