Pi Daily ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดบวก 34 จุด (+0.08%) ได้แรงหนุนจากหุ้น United Health หลัง BerkShire ประกาศเข้าลงทุน ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 1.48% รอผลเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย

11

มิติหุ้น – คืนวันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯ ประกาศตัวเลขค้าปลีกประจำเดือน ก.ค. พบว่าขยายตัวได้ 0.5%MoM ต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้เล็กน้อยที่ 0.6%MoM แต่หากไปพิจารณายอดค้าปลีกที่ไม่รวมสินค้ายานยนต์พบว่าขยายตัวได้ 0.3%MoM เท่ากับว่าการบริโภคในสินค้ายานยนต์เร่งตัวขึ้นชดเชยยอดค้าปลีกทั้งหมด (+1.6%MoM) ส่วนสินค้าอื่นๆที่ขยายตัวได้ประกอบไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ (+1.4%MoM) อุปกรณ์กีฬา (+0.8%MoM) เสื้อผ้า (+0.7%MoM) แสดงถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังแข็งแกร่ง แต่ในขณะเดียวกันก็ได้ประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนพบว่าอยู่ที่ 58.6 ต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดหมายไว้ที่ 61.9 ถ้อยแถลงภายในระบุว่าการทรุดตัวลงของความเชื่อมั่นเกิดจากว่าความกังวลภาวะเงินเฟ้อรวมไปถึงกำลังซื้อสินค้าคงทนที่ลดลง 14% แต่อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดแล้วนักลงทุนมองบวกกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ สะท้อนผ่านการปรับขึ้นของ US Bond Yield ทั้งรุ่นอายุ 2 , 10 ปี ด้านปัจจัยในประเทศตลาดหุ้นไทยในวันศุกร์เริ่มเห็นการพักฐาน (-0.57%) และนักลงทุนต่างชาติ กลับมาขายสุทธิ 558 ล้านบาท

ซึ่งคล้ายกับว่า SET INDEX เริ่มเผชิญกับแนวต้านที่ 1280 (PE 14x) หากจะปรับขึ้นมากกว่าบริเวณดังกล่าวแบบยั่งยืนเชื่อว่าจำเป็นต้องมีปัจจัยหนุนที่มากกว่านี้โดยเฉพาะกำไรบริษัทจดทะเบียนหรือปัจจัยพื้นฐาน แต่ทั้งนี้ในครึ่งปีหลังอาจเป็นภาพที่ไม่สดใส เพราะหลายๆสำนักประเมินกันว่าเศรษฐกิจไทยอาจย่ำแย่จากการส่งออกที่ลดลง ผสานกับการท่องเที่ยวที่ยังไม่กลับมาอย่างมีนัย ปัจจัยติดตามวันนี้ได้แก่การประกาศตัวเลข GDP 2Q25 ของประเทศไทย โดยที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ 2.7%YoY หากมากกว่าคาดการณ์จะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นไทยส่วนต่างประเทศคืนนี้ไม่มีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1230 – 1280 ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังแนะทยอยลดพอร์ตการลงทุนด้วย Valuation ที่เริ่มสูงประกอบกับในครึ่งปีหลังเผชิญความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ แต่อย่างไรก็ตามในการ Trading ระยะสั้นเลือก กลุ่มได้ประโยชน์ดอกเบี้ยปรับลง อาทิ การเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) และการปรับขึ้นของ US Yield จะเป็นบวกเชิงจิตวิทยาต่อกลุ่มธนาคาร (BBL KBANK KTB SCB)

CPF (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 34.00 บาท)
CPF มีกำไรสุทธิงวด 2Q25 ที่ 10,377 ล้านบาท (+50%YoY,+21%QoQ) ถ้าไม่รวมรายการพิเศษและดอกเบี้ยจากหุ้นกู้ที่มีลักขณะคล้ายทุนจะมีกำไรปกติประมาณ 10673 ล้านบาท (+100%YoY,+30%QoQ) ดีกว่าที่เราคาดไว้เล็กน้อย ได้รับผลดีจากราคาสุกรที่ยืนในระดับสูงรวมกับต้นทุนการเลี้ยงที่ลดลง ทำให้กำไรขั้นต้นสูงถึง 19.8% เพิ่มจาก 15.4% ใน 2Q24 และ 18.5% ใน 1Q25

MTC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 45.00 บาท)
ผลการดำเนินงานใน 2Q25 แข็งแกร่ง กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.65 พันล้านบาท (+14% YoY, +5% QoQ) และ NPL ratio ลดลงเหลือ 3.6% แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2H25 คาดจะขยายตัวต่อเนื่องทั้ง YoY และ HoH หนุนจากสินเชื่อขยายตัว และต้นทุนการเงินลดลงจากทิศทางดอกเบี้ยลดลง

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon