ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดัน จากอุปทานน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นทั่วโลก
- EIA คาดการณ์สหรัฐฯ ผลิตน้ำมันดิบสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2568 เพิ่มขึ้น 0.2 ล้านบาร์เรลต่อวันจากปีก่อนหน้า อยู่ที่ 13.41 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- วันที่ 15 ส.ค. 68 ประธานาธิบดี Donald Trump แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดี Vladimir Putin แห่งรัสเซียแถลงร่วม หลังการประชุมสุดยอดที่รัฐ Alaska ในสหรัฐอเมริกา ระบุว่าการเจรจามีความคืบหน้าและเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ แต่การประชุมกลับจบลงโดยไม่มีข้อตกลงยุติสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน และไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดการเจรจาใดๆ ทั้งนี้ ประธานาธิบดี Putin เชิญประธานาธิบดี Trump ให้ไปหารือกันครั้งต่อไปที่กรุง Moscow ในรัสเซีย
- สหรัฐฯ เลื่อนการบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ต่อจีนออกไป 90 วัน เป็นวันที่ 10 พ.ย. 68 จากเดิมที่มีกำหนดเริ่มต้นวันที่ 12 ส.ค. 68 จีนจึงเลื่อนมาตรการตอบโต้เช่นกัน และเปิดทางเพื่อเจรจาทางการค้าต่อไป
- วันที่ 12 ส.ค. 68 บริษัท Chevron ได้เริ่มส่งออกน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาเป็นครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. 68 หลังได้รับใบอนุญาตจากสหรัฐฯ อีกครั้ง โดยเรือ Canopus Voyager (ขนาด Aframax : 850,000 บาร์เรล) สูบถ่ายน้ำมันดิบประมาณ 500,000 บาร์เรล และมีแผนส่งมอบน้ำมันดิบเพิ่มเติมอีก 2 เที่ยวเรือในวันที่ 18-20 และ 28-30 ส.ค. 68 ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Donald Trump เคยประกาศเพิกถอนใบอนุญาตการส่งออกน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลา โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. 68 เพื่อกดดันรัฐบาลแห่งเวเนซุเอลาของประธานาธิบดี นาย Nicolás Maduro แต่ภายหลังกลับมาอนุญาตในวันที่ 31 ก.ค. 68
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
