มิติหุ้น – “บมจ.เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ หรือ ASIMAR” โชว์ศักยภาพแข็งแกร่ง บุ๊คงบไตรมาส 2/68 มีรายได้จากการรับจ้าง 247.39 ลบ. เพิ่มขึ้น 36.72% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/67 โดยเป็นรายได้งานต่อเรือเฉียด 100 ลบ. หรือ 187.57% เป็นการรับรู้รายได้ของโครงการต่อเรือปฏิบัติการอุทกศาสตร์ ของกองทัพเรือ และรายได้งานซ่อมเรือ 141.80 ลบ. เพิ่มขึ้น 10.69% ส่งผลให้มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 12.13 ลบ. โต 3.41% จากงวดเดียวกันของปีก่อน “สุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์” แม่ทัพใหญ่ ส่งซิกแนวโน้มครึ่งปีหลังคาดว่ามีการเติบโตที่ดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมา หนุนแผนในปี 2568 รายได้เติบโตตามแผน
นายสุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASIMAR เปิดเผยว่าผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 บริษัทมีผลกำไรสุทธิ 12.13 ล้านบาท หรือ 3.41% เป็นรายได้งานซ่อมเรือ 141.80 ล้านบาท หรือ 10.69% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/67 โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากลูกค้าในกลุ่มภาคเอกชนซึ่งยังคงเป็นรายได้หลักของบริษัท ขณะที่กลุ่มเรือราชการยังมีสัดส่วนไม่มากนัก โดยบริษัทยังคงรักษาแนวโน้มการเติบโตของรายได้จากงานซ่อมเรือได้อย่างต่อเนื่องในไตรมาสนี้ จากปัจจัยสนับสนุนหลักการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมเดินเรือในภูมิภาคเอเชีย และความต้องการซ่อมบำรุงเรือที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในรูปแบบการบำรุงรักษาตามรอบ ส่วนสาขาสุราษฎร์ธานี มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยมีรายได้หลักจากกลุ่มเรือโดยสาร ซึ่งสะท้อนการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในภาคใต้ ที่กลับมาเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 2 ปีนี้ ส่วนงานต่อเรือ 99.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64.90 ล้านบาท หรือ 187.57% เป็นการรับรู้รายได้ของโครงการต่อเรือปฏิบัติการอุทกศาสตร์ ของกองทัพเรือ โดยเป็นการรับรู้สะสม 82.20% ของทั้งโครงการ และโครงการต่อเรืออเนกประสงค์ต้นแบบเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขนาดกลาง (ทำจากวัสดุ HDPE) ของกองทัพเรือ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จและส่งมอบเมื่อวันที่ 24 เม.ย.2568
“บริษัทฯมีกำไรขั้นต้นในไตรมาส 2/2568 เท่ากับ 67.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.26 ล้านบาท หรือ 29.42% อย่างไรก็ดี ถึงแม้ครึ่งปีแรกบริษัทจะทำรายได้สะสมถึง 464.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก 2567 ถึง 810.95 ล้านบาท แต่มีกำไรเพียง 18.50 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2567 เนื่องจากบริษัทฯ ได้ตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 จำนวน 12.81 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2567 จำนวน 12.44 ล้านบาท เป็นการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตของลูกหนี้ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของ บริษัท สยามลัคกี้มารีน จำกัด ถึงจำนวน 9.54 ล้านบาท เนื่องจากทางลูกค้าไม่ชำระเงินภายในระยะเวลาที่กำหนด สำหรับลูกหนี้การค้ารายนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างดำเนินการทางกฎหมาย เพื่อบังคับชำระหนี้จากลูกหนี้รายนี้ต่อไป” นายสุรเดช กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่ายังมีการเติบโตที่ดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมา โดยเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568 บริษัทฯได้เซ็นสัญญาเรือลากจูงขนาดไม่น้อยกว่า 3,000 แรงม้า กับท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ – กองทัพเรือ มูลค่างาน 299.90 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลาโครงการ 540 วัน รวมทั้งมีแผนเข้าประมูลงานต่อเรือโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ซึ่งเป็นโครงการที่มีศักยภาพที่ ASIMAR คาดว่าจะได้งานเพิ่มเข้ามาเสริมแกร่งรายได้ให้กับบริษัท สนับสนุนเป้าหมายรายได้เติบโต 10% ตามแผน ซึ่งในปัจจุบันบริษัทฯยังมี Backlog งานโครงการต่อเรือในมืออีกราว 428 ล้านบาท
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon