มิติหุ้นต – ในโลกของการซื้อขายหุ้นที่ราคาซื้อขายเปลี่ยนแปลงวินาทีต่อวินาที “เวลา” คือ สิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อกลยุทธ์ในการซื้อขาย และจังหวะในการทำกำไรจากการซื้อขายหุ้น ดังนั้น ตลาดหุ้นในหลายประเทศมักจะเปิดทำการแบบต่อเนื่องตลอดทั้งวันทำการ อย่างไรก็ตาม ยังมีตลาดหุ้นในบางประเทศที่มีการหยุดพักกลางวัน โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชีย อาทิเช่น ตลาดหุ้นโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หยุดพักเที่ยง ระหว่าง เวลา 1130 ถึง 12:30น. ตลาดหุ้นฮ่องกง ประเทศจีน หยุดพักเที่ยง ระหว่าง เวลา 1200 ถึง 1300 น. เป็นต้น
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ก็เป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีการหยุดพักกลางวัน ยาวถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีการแบ่งช่วงเวลาของการซื้อขายหุ้นออกเป็น 2 ช่วง อันได้แก่ ช่วงเช้าและบ่าย และ หยุดพักกลางวัน ระหว่างเวลา 12:30 จนถึง 14:30 น. ต่อมาภายหลัง ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2567 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้มีการปรับลดระยะเวลาของการหยุดพักกลางวันลงเหลือเพียง 1ชั่วโมง 30 นาที คือ ตั้งแต่12:30 จนถึง 14:00 น. การหยุดพักกลางวัน มีความแตกต่าง จากการหยุดทำการซื้อขายแบบชั่วคราว อาทิเช่น Circuit Breaker, Trading Halts และ Trading Suspension เป็นต้น เนื่องจากการหยุดทำการซื้อขายแบบชั่วคราวเหล่านี้เป็นเครื่องมือในการลดผลกระทบต่อความผันผวนอย่างรุนแรงในตลาด
คำถามสำคัญที่ตามมาคือ: ประโยชน์ของการหยุดพักกลางวันทุกวันทำการนั้น คือ อะไร และ ด้วยเหตุใดตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจึงออกแบบให้มีการหยุดพักกลางวัน การแบ่งเวลาซื้อขายออกเป็น 2 ช่วง (ช่วงเช้า และ บ่าย) ส่งผลต่อประสิทธิภาพของตลาดมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะ “การค้นหาราคา” (Price Discovery) ซึ่งเป็นหน้าที่พื้นฐานของตลาดทุนในการสะท้อนข้อมูลใหม่เข้าสู่ราคาอย่างรวดเร็วและถูกต้อง บทความนี้จะมาหาคำตอบให้กับคำถามนี้อย่างเป็นระบบ ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลโครงสร้างจุลภาค Market
Microstructure ของตลาดหุ้นไทยระหว่างปี 2018–2021 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิเคราะห์เชิงโครงสร้างเกี่ยวกับกลไกการซื้อขายด้วยการจับคู่ครั้งเดียว Call Auction ทั้งช่วงเช้าและบ่าย ก่อนที่จะมาตามหาคำตอบนี้ เราต้องมาทำความเข้าใจกับกลไกในการสุ่มเวลาเปิดทำการของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเสียก่อน
รู้ไหมว่าเวลาเปิดตลาดทั้งในช่วงเช้าและบ่ายไม่ได้กำหนดไว้ตายตัว
กลไกการสุ่มเวลาเปิด นักลงทุนหน้าใหม่อาจจะไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ไม่ได้เปิดตลาดในรอบเช้าที่ 10:00 น. และภาคบ่ายที่เวลา 14:30 น. หากแต่ใช้วิธี “สุ่มเวลา” หรือ Random End โดยระบบจะสุ่มหาช่วงเวลาที่ Call Auction จะสิ้นสุด ซึ่งจะเป็นวินาทีใดก็ได้ ระหว่างเวลา 9:55–10:00 น. สำหรับภาคเช้า และ 14:25–14:30 น. สำหรับภาคบ่าย เพื่อทำการคำนวณหาราคาที่ใช้เปิดการซื้อขายในแต่ละช่วง หลักการนี้มีที่มาจากความพยายามลดการเก็งกำไรในเสี้ยววินาทีสุดท้าย ก่อนปิดการประมูลราคาเปิดตลาด
ซึ่งหากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนดเวลาสิ้นสุดของ Call Auction แบบตายตัว นักลงทุนบางรายอาจรอจนถึงวินาทีสุดท้ายเพื่อส่งคำสั่งขนาดใหญ่ เพื่อหวังให้ราคาขยับไปในทิศทางที่ตนต้องการ ส่งผลให้ราคาที่ได้ไม่เป็นธรรม และ ไม่สะท้อนมุมมองโดยรวมของตลาดอย่างแท้จริง ด้วยการสุ่มเวลาเปิด นักลงทุนทุกฝ่ายจึงต้องส่งคำสั่งล่วงหน้าในช่วงเวลาที่ไม่รู้แน่ชัดว่าการประมูลจะปิดเมื่อใด วิธีนี้ช่วยกระจายความเสี่ยง ลดการได้เปรียบของผู้ที่มีระบบซื้อขายความเร็วสูง high-frequency trading และเปิดโอกาสให้ราคาสะท้อนมุมมองของนักลงทุนกลุ่มได้กว้างขวางมากขึ้น
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon